ปทุมธานี จัดยิ่งใหญ่จรวดมอญลูกหนูเมืองปทุมฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
ปทุมธานี จัดยิ่งใหญ่จรวดมอญลูกหนูเมืองปทุมฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น.ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและพิธีเปิดโครงการจัดงานสืบสานประเพณีจุดลูกหนู จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายมนัส สุวรรณรินทร์ ท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ ผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด อบจ.ปทุมธานี ข้าราชการ พนักงาน ตำรวจ และประชาชน ร่วมพิธีเปิด มีประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจเข้าร่วมชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก
บรรยากาศพิธีเปิดงานสืบสานประเพณีจุดลูกหนูมีขบวนแข่งลูกหนูจำนวน 24 ทีม โดยประเพณีจุดลูกหนู นับว่าเป็นประเพณีที่เก่าแก่อยู่คู่กับชนชาวมอญ โดยเฉพาะในจังหวัดปทุมธานีมานานร่วม 600 ปี และประเพณีจุดลูกหนูนี้ จะเห็นว่าส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะมีการจัดขึ้นเฉพาะตามวัด ที่มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีเชื้อสายรามัญมรณภาพแล้วเท่านั้น ซึ่งประเพณีนี้ ถ้าพี่น้องชาวจังหวัดปทุมธานี ไม่ร่วมกันรักษาไว้อาจจะทำให้เกิดการสูญหายก็เป็นได้ โดยปีนี้มีคณะลูกหนูเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 24 ทีม ๆ ละ 12 คณะ แบ่งเป็นสาย A และสาย B
ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้น สำหรับ “ลูกหนู” หรือ “จรวดมอญ” นี้ ทำมาจากลำไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ยาวประมาณสองปล้อง เจาะกระบอก แล้วอัดดินปืนเข้าไปข้างใน อุดหัว-ท้าย ติดสายชนวนตรงกลาง เมื่อจุดไฟที่สายชนวน จะไปกระทบดินปืนข้างในกระบอก เพื่อขับดันให้กระบอกวิ่งไปข้างหน้าตามลวดสลิง จนถึงจุดมุ่งหมายพุ่งชนปราสาทที่อยู่ห่างไปประมาณ 40 เมตร ถ้าลูกหนูของใครถูกที่สำคัญของปราสาท ไม่ว่าจะเป็นเสาปราสาท ตัวปราสาท หรือแผ่นป้ายต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ ก็จะได้รับเงินรางวัลตามที่กำหนด แต่รางวัลสูงสุดคือ การที่ลูกหนูวิ่งชนยอดปราสาท ถือว่าเป็นชัยชนะ จะได้รับรางวัลสูงสุดตามที่มีการจัดไว้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการจัดงานสืบสานประเพณีจุดลูกหนู นับว่าเป็นการดีที่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีที่เกิดคู่กับชนชาวไทยเชื้อสายรามัญในจังหวัดปทุมธานี ให้คงอยู่สืบไป พร้อมกับเป็นการเสริมสร้างให้ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้ทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความปรองดองของกลุ่มชน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดปทุมธานี
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน