ลำพูน – ตร.สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ลำพูน – ตร.สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 67 เวลา 11:00 น. พ.ต.อ. สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วย พ.ต.ท. โชติเทวินทร์ เล็งคิดวรภิภัส
รอง ผกก.ป.สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ได้รับมอบหมายจาก
พ.ต.อ. ปริญญา ชัยเววา ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ให้อำนวยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมด้วย พ.ต.ท. บวรรชฏ มายะลา สารวัตรสอบสวนเวรฯ นำตัวผู้กระทำความผิด เพศชาย อายุ 34 ปี ราษฎร ต.ศรีบัวบาน อ.เมืองลำพูน จว.ล.พ. ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ เป็นทองรูปพรรณ(สร้อยคอทองคำ) ณ ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ม.4 ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากชุดป้องกันปราบปรามฯ และชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ สภ.นิคมฯ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพข้อหาวิ่งราวทรัพย์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 67 เวลา 19:24 น.โดยประมาณ ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ภ.จว.ลำพูน รับแจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นทองรูปพรรณ(สร้อยคอทองคำ) จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 3 บาท ออกไปจากร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในพื้นที่ ม.4 บ้านกลาง ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน โดยอาศัยช่วงที่ทางร้านทองกำลังทยอยเก็บถาดทองคำเข้าตู้เก็บนิรภัย วิ่งออกไปยังประตูทิศใต้ด้านหลังห้างฯ กระทั่งถูกจับได้ที่หน้าร้านจำหน่ายสินค้าสัตว์เลี้ยงในที่สุด รวมเป็นระยะทางไม่ถึง 100 เมตร
เบื้องต้น ผู้กระทำความผิดยอมรับสารภาพว่า “ได้กระทำผิดจริง” ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ทาง พงส.ฯนำตัวไปฝากขัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ของกลางที่ได้มีน้ำหนัก 3 บาท โดยเทียบราคา ณ เมื่อ 30 มี.ค. 67 น้ำหนัก 1 บาท ราคาอยู่ที่ -39,050.00-บาท ดังนั้น สร้อยคอทองคำเส้นนี้ น้ำหนัก 3 บาท จะมีราคารวม -117,150.00-บาท
ทั้งนี้ ข้อหา วิ่งราวทรัพย์ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ผู้นั้นกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท..
กรรณิการ์ วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน รายงาน