เกษตรกรเมืองสงขลา ปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย หลากชนิดผสมผสาน สร้างรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวช่วงหน้าแล้ง

นางพิรญาณ์ ขุนทิศ เกษตรกรอำเภอเมืองสงขลา วัย 59 ปี บ้านเกาะแต้ว หมู่ 6 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ใช้พื้นที่ประมาณ 1.5 ไร่ (หนึ่งไร่ครึ่ง) ปลูกพืชผักอายุสั้น ทนแล้ง สร้างรายได้ กว่า 15,000 บาทต่อเดือน
นางพิรญาณ์ และครอบครัวประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งทำสวนยางพาราเป็นอาชีพหลัก และปลูกผักเสริมรายได้เลี้ยงครอบครัว โดยจะใช้พื้นที่ประมาณหนึ่งไร่ครึ่ง (1.5 ไร่) ปลูกพืชผักอายุสั้น ผสมผสานหลากหลายชนิดหมุนเวียนกันไป และช่วงนี้เข้าสู่ช่วงหน้าแล้ง จึงหันมาปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยให้ผลผลิตเร็ว หลากหลาย ประกอบด้วย บวบช่อ มะระขี้นก ข้าวโพดหวาน กระเจี๊ยบเขียว ซึ่งช่วงนี้ตนกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต มะระขี้นก และบวบช่อ ส่วนข้าวโพดหวาน และกระเจี๊ยบเขียวยังไม่ให้ผลผลิต

ซึ่งพืชที่ปลูกเป็นพืชที่ทนแล้งใช้น้ำน้อย และให้ผลผลิตเร็ว ปัญหาศัตรูพืชน้อย เหมาะกับการปลูกในช่วงหน้าแล้ง ทั้งมะระขี้นก บวบช่อ และกระเจี๊ยบเขียว ปลูกเพียง 1 เดือน เริ่มให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวบริโภคและจำหน่ายได้แล้ว สำหรับการปลูกพืชผักของต้นจะปลูกโดยใช้ ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมและหยอดเมล็ดปลูก ขณะที่ต้นพืชยังเล็กให้น้ำวันละครั้ง พอต้นโตขึ้นจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ใส่ปุ๋ยเคมีบ้างเล็กน้อย ให้น้ำ วันเว้นวัน พืชก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี ทุกวันนี้ตนจะเก็บผลผลิตมะระขี้นกและบวบช่อได้ประมาณครั้งละ 15 กิโลกรัม โดยจะเก็บวัน เว้น วัน หากผลผลิตออกมากก็จะเก็บทุกวัน และนำไปจำหน่ายในตลาดนัดชุมมชน ราคาขายส่งให้แม่ค้ากิโลกรัมละ 80 บาท แต่ถ้าแบ่งขายปลีกจะได้ราคากิโลกรัมละ 100 บาท ราคาผลผลิตการเกษตรดีต่อเนื่อง

จึงทำให้ครอบครัว มีรายได้จากการขายผักครั้งละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท และสร้างรายได้ให้ครอบครัวกว่า 15,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งผลผลิตของตนเป็นที่ต้องการของแม่ค้าที่รับไปจำหน่ายและผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากเป็นพืชผักปลอดสารพิษ ที่ผลิตเน้นการใช้ปุ๋ยคอก และปุ๋ยหมัก ใช้ปุ๋ยเคมีเพียงเล็กน้อย ใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทำให้ผลผลิตปลอดภัย ความต้องการของตลาด หากพี่น้องเกษตรกรที่สนใจปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย ช่วงหน้าแล้งนี้เพื่อบริโภคหรือจำหน่ายสร้างรายได้เสริม สอบถามเพิ่มเติม 08 7397 1088

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา