กาฬสินธุ์มอบโคเลี้ยงขยายพันธุ์สร้างงานสร้างอาชีพรายได้แก่เกษตรกร
“วิรัช พิมพะนิตย์” ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 ร่วมกับคณะทำงาน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบโคให้เกษตรกรยืมเพื่อการผลิต จำนวน 54 ตัว ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ และเลี้ยงขยายพันธุ์ สร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้อย่างยั่งยืน ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ขณะที่เกษตรกรต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 เป็นประธานมอบโคให้กับเกษตรกร จำนวน 54 ตัว ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ มอบโคให้เกษตรกรยืมเพื่อการผลิต โดยมีนายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม คณะทำงานนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุทิน กาญจนรัช ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ นายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ สจ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ นายภุชงค์ ศรีอากาศ นายกอบต.หนองกุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชน เกษตรกร ร่วมงานและรับมอบโค
นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของกาฬสินธุ์ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงคู่วิถีชาวบ้านมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ พบว่ายังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีความต้องการที่จะเลี้ยงสัตว์ แต่ยังขาดเงินทุนในการซื้อหามาเลี้ยง ในฐานะ ส.ส.พื้นที่จึงได้ประสานงานกับนายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม คณะทำงานนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และปศุสัตว์จังหวัด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานติดตามโครงการดังกล่าว เพื่อนำโคมามอบให้กับชาวบ้านในครั้งนี้จำนวน 54 ตัว เกษตรกรได้รับมอบ 54 ราย ทั้งนี้ เพื่อปลูกฝังให้ชาวบ้านรักษ์สัตว์ และส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้มีอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืนด้วย
ด้านนายสุทิน กาญจนรัช ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ มอบโคให้เกษตรกรยืมเพื่อการผลิต เป็นอีกหนึ่งโครงการพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2522 เพื่อมอบโค-กระบือ ให้เกษตรกรผู้ยากไร้ ได้นำไปเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ หากตกลูกออกมาเป็นเพศผู้ก็จำหน่าย หรือหากตกลูกเป็นเพศเมีย ก็ให้ขยายพันธุ์ต่อ และส่งต่อวัวเพศเมียให้เกษตรกรรายอื่นได้เลี้ยงต่อไป ทั้งนี้มีสัญญาในการยืมเลี้ยงรายละ 5 ปี
ขณะที่นางนงนุช ปรีสันต์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 3 บ้านโนนสง่า ต.หนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมตนเคยเลี้ยงวัวฝูง 7 ตัว แต่ได้ขายไปหมดแล้ว เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูกเรียนหนังสือ พอทราบว่าจะมีโครงการโคพระราชทานมาลงพื้นที่ จึงได้สมัครเพื่อขอรับสิทธิ์ จนกระทั่งได้รับสิทธิ์รับโคไปเลี้ยงในครั้งนี้ ซึ่งตนและเพื่อนเกษตรกร ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างหาที่สุดมิได้ และต้องขอขอบคุณ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 และนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ ผู้นำชุมชน ที่ผลักดันโครงการดีๆมาสู่ชาวบ้าน โดยตนจะเลี้ยงโคที่ได้รับมอบในครั้งนี้อย่างดีที่สุด