เชียงใหม่-พิธีลงนาม MOU ทางวิชาการ ระหว่าง มหาวิทยาลัยเนชั่นกับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มุ่งผลิตพยาบาลที่มีคุณภาพ
เชียงใหม่-พิธีลงนาม MOU ทางวิชาการ ระหว่าง มหาวิทยาลัยเนชั่นกับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มุ่งผลิตพยาบาลที่มีคุณภาพ
วันที่ 2 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น.ผศ.ดร.กฤษฎา ตันเปาว์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเนชั่น และ รศ.ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยเนชั่น วิทยาเขตเชียงใหม่และ ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมทั้งแลกเปลี่ยนร่วมกันระหว่างผู้บริหารและคณาจารย์ ณ มหาวิทยาลัยเนชั่น วิทยาเขตเชียงใหม่
ผศ.ดร.กฤษฎา ตันเปาว์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเนชั่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเนชั่น เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน มีที่ตั้งอยู่จังหวัดลำปาง บนพื้นที่กว่า 160 ไร่ มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพให้แก่สังคมด้วยกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้นิสิตเป็นนักคิด ใฝ่เรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ การประยุกต์ใช้ และมีคุณธรรม จิตสำนึกต่อสาธารณะ โดยมีกิจกรรมเพื่อฝึกฝนให้นิสิตมีประสบการณ์จริงสามารถนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่การงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยเนชั่น เป็นมหาวิทยาลัยของภูมิภาค มีความตั้งใจจริงที่ผู้รับใบอนุญาต เล็งเห็นว่าแต่ ณ ปัจจุบันทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ เราจึงตั้งใจในการตั้ง วิทยาเขตที่เชียงใหม่ เปรียบเสมือนเป็นเมืองสำคัญ เป็นเสมือนเมืองหลวงของภาคเหนือ จะเป็นศูนย์กลางของทั้งการศึกษา การคมนาคม เศรษฐกิจ สังคมและอื่นๆ
อีกทั้งเดือนมกราคมที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเนชั่น ครบรอบ 36 ดังนั้นวันนี้ถือเป็นวันดีที่เป็นอีกก้าวย่างสำคัญของมหาวิทยาลัยเนชั่น ที่จะมีการเปิดวิทยาเขตที่เชียงใหม่ ในคณะต่างๆ และวันนี้เป็นวันสำคัญมาก ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยเนชั่น อย่างยิ่งที่ได้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สถาบันชั้นนำของประเทศมาช่วยผลักดัน พัฒนาให้มหา
วิทยาลัยเนชั่น ได้เติบโตอีกก้าวย่างหนึ่ง
โดยเฉพาะคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นหนึ่งในคณะที่เป็นที่ต้องการสูงสุดของประเทศไทยและในภูมิภาค AEC มหาวิทยาลัยเนชั่น ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้เตรียมความพร้อมทั้งคณาจารย์ หลักสูตร ผู้บริหาร และรวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือ อาคารสถานที่ต่างๆในการรองรับของ มหาวิทยาลัยเนชั่นที่จะเดินต่อไปในคณะพยาบาลศาสตร์ ดังนั้นเชื่อว่าการที่มหาวิทยาลัย เปิดคณะพยาบาลศาสตร์ ขึ้นมา เพื่อรองรับตลาดในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง เป็นพื้นที่ๆมีศักยภาพ
ด้วยความกรุณาของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม อธิการบดี คณบดีและทีมผู้บริหารได้ส่งทีมมาเยี่ยมและประเมินแล้ววันนี้ เป็นเกียรติอย่าง
สูงสุดที่ได้ให้เกียรติ ในการทำความร่วมมือ พัฒนาทางด้านวิชาการด้านการวิจัย บริการวิชาการ ร่วมกัน สร้างสรรค์งานทางด้านวิชาชีพ
คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเนชั่น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะทำให้คณะพยาบาลศาสตร์มีความเข้มแข็ง ผลิตพยาบาลเพื่อเป็นกำลังคนที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
รศ.ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดย คณะพยาบาลศาสตร์ รับเป็นสถาบันการศึกษา พี่เลี้ยงให้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชั่น วิทยาเขตเชียงใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วย หลักเกณฑ์การรับรองสถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2566 โดยมีสาระสําคัญเป็น กรอบข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อการพัฒนาหลักสูตรและการดําเนินงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการผลิต บัณฑิตหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ด้านการเสริมสร้างคุณภาพและความเข้มแข็งทางวิชาการในการผลิตบัณฑิตหลักสูตรพยาบาล ศาสตรบัณฑิต
ประกอบด้วย การให้คําปรึกษา แนะนําเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต ของมหาวิทยาลัยเนชั่นให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ให้การช่วยเหลือ ดูแล และกํากับการจัดการเรียนการสอนและการบริหารหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเนชั่นให้สอดคล้องและเป็นไปตามข้อกําหนดของสภาการพยาบาล การร่วมจัดกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อการผลิตบัณฑิตหลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเนชั่น บรรลุเป้าหมายท่ีกําหนด
ดังนั้นวันนี้สถาบันทั้งสอง ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เป็นพี่เลี้ยงในการผลิตพยาบาลคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชั่น ซึ่งมหาวิทยาลัยสารคามได้พิจารณาว่ามหาวิทยาลัยเนชั่น มีความพร้อมและมีความเหมาะสม ถือว่าเป็นโจทย์ทางด้านวิชาการแลกเปลี่ยนร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ นอกจากทางด้านวิชาการแล้ว ด้านวิจัย ด้านอื่นๆ และบริการวิชาการต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ในการที่ขับเคลื่อน ในการผลิตพยาบาล ซึ่งถือว่ากำลังขาดแคลนของประเทศ ซึ่งตรงนี้เป็นภารกิจของทุกคน คงไม่ใช่แค่ของมหาวิทยาลัยของรัฐอย่างเดียว มหาวิทยาลัยเอกชนก็ต้องช่วยกันในการขับเคลื่อนภารกิจของประเทศชาติ โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนพยาบาลให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศต่อไป
พัฒนชัย/เชียงใหม่