นราธิวาส – ผู้แทน UN ถก ผอ.สำนักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ประเด็นข้อกฎหมาย ยืนยันเข้าใจดีต่อกรณีการดำเนินคดีกลุ่มภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมอ้างแสดงอัตลักษณ์การแต่งกายชุดมลายู
นราธิวาส – ผู้แทน UN ถก ผอ.สำนักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ประเด็นข้อกฎหมาย ยืนยันเข้าใจดีต่อกรณีการดำเนินคดีกลุ่มภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมอ้างแสดงอัตลักษณ์การแต่งกายชุดมลายู
พันเอก เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Dip Magar Human Rights Officer and Thailand Team Leader OHCHR. คณะผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในโอกาสเข้าพบหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจับกุมผู้กระทำผิดภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ณ ห้องรับรอง อาคาร 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
โดยมี พันตำรวจเอกจารุวิทย์ วงศ์กิตติพร รองผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า คณะเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Dip Magar เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนและหัวหน้าทีมประเทศไทย สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกล่าวว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ(OHCHR) มีความสนใจต่อ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 นับเป็นความสำเร็จของประเทศไทยต่อการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ พร้อมทั้งเสนอความร่วมมือระหว่าง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ด้านปัญหา เทคนิคต่างๆ รวมทั้งการฝึกอบรม ผลิตหลักสูตร ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ให้ความสนใจต่อกรณีการร้องเรียน จากกลุ่มองค์กรภาคสังคมต่างไปยื่นเรื่องต่อ UN เพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขั้นพื้นฐานในการแสดงออก เช่น ด้านการแต่งกายชุดมลายู ซึ่งในประเด็นนี้ทางยูเอ็นยืนยันเข้าใจดีต่อประเด็นดังกล่าว
ด้าน พันเอก เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้ความสำคัญกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.๒๕๖๕ ดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมและมีการบรรยายให้ความรู้ต่อเจ้าหน้าที่ ในการบังคับใช้กฎหมายด้วยความระมัดระวังต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเรื่องการแต่งกายชุดมลายู นักจัดกิจกรรม ณ หาดวาสุกรี นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และแนะนำว่า เรามี พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.๒๕๕๙ ในการส่งเสริมฯด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ผู้แทนUN ได้ฝากขอบคุณทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าที่ชี้แจงสร้างความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจว่าจะปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมายโดยเคร่งครัด ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และกล่าวทิ้งท้ายว่า การพบปะหารือครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าจะสร้างความใกล้ชิดในการประสานการปฏิบัติงานร่วมกัน ในโอกาสต่อไป
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร/อัสมา บินมะนุ จ.นราธิวาส