ตร.ระดมกำลังไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุพยายามข่มขืนสาวชาวจีน ก่อนชิงทรัพย์จุดไฟเผา

คืบหน้า กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน เข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายพยายามข่มขืน จับมัดมือเท้า ก่อนจะจุดไฟเผาป่า

ล่าสุด ช่วงเย็นของวันที่ 19 ก.พ.67 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค 2 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งกำลังติดตามผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้เสียหายเบื้องต้น ให้การว่ากำลังจะหารถไปที่วอร์คกิ้งสตรีท พอดีเจอวินรถ จยย. รับจ้างจึงคุยตกลงราคากัน ขณะนั้นมีรถ จยย. ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุเห็นจึงเข้ามาอาสา ซึ่งวินรถ จยย. ที่รับน้องชายได้วิ่งออกนำหน้าไป ส่วนคนร้ายซ้อนผู้เสียหายขี่ตามหลัง เมื่อได้จังหวะจึงเลี้ยวรถไปทางอื่น ก่อนนำมายังจุดที่ก่อเหตุดังกล่าว

ส่วนข้อมูลของคนร้าย ได้มาแล้วบางส่วนและกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานได้ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ หลังจากนั้นจะออกหมายจับ
ในเบื้องต้น ตั้งข้อหาชิงทรัพย์ เพราะมีทรัพย์สินเงินสด 15,000 บาท และเงินหยวน 1,500 หยวน ที่ถูกนำไป ส่วนตัวผู้เสียหายมาเมืองไทยได้เพียง 2 วัน ซึ่งพ่อแม่ได้เดินทางมาก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะนี้ ตร.ต้องรีบรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามจับกุมคนร้าย เพราะคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศไทย ซึ่งเราได้ระดมทั้งชุดสืบสวนภาค สืบสวนจังหวัด สืบสวน สภ.หนองปรือ ในการลงพื้นที่ทำงานเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ

ส่วนตัวผู้เสียหายตอนนี้สถาพจิตใจดีขึ้น เพราะเราให้คำมั่นจะติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด และผู้เสียหายเชื่อมั่นในความสามารถของตำรวจไทย นอกจากนี้ยังได้ประสานไปทาง ตม.จังหวัดชลบุรี ในการอำนวยความสะดวกทำพาสปอร์ตที่สูญหายให้ผู้เสียหายอีกด้วย
สำหรับกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถจักรยานยนต์ 2 คันที่รับชาวจีน 2 คน ตั้งแต่เวลา 17.24 น.วิ่งผ่านถนนห้วยใหญ่ มุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท จากนั้นกล้องอีก 1 ตัว จับภาพรถจักรยานยนต์ 2 คัน วิ่งตามกันมา จากนั้นพอถึงสะพานบ้านบึง ข้ามถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 รถคันของน้องชายวิ่งขึ้นสะพานมุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท ส่วนคันของผู้หญิงชาวจีน วิ่งข้างสะพานแล้วลอดใต้สะพานวิ่งขนานสาย 7 ไปทางร้านครัวขวัญใจอาหารใต้ เส้นทางถนนอุโมงค์ต้นไม้ไปยังที่เกิดเหตุ