ยะลา-เบตง ชาวบ้านหากบภูเขาได้ตัวใหญ่น้ำหนัก 1 กิโลเศษ

เบตง ชาวสวนยางพาราพื้นที่เบตง ใช้เวลาว่างไม่ได้กรีดยาง หากบในป่า จับได้กบภูเขาตัวใหญ่ หนัก 1.2 กิโลกรัม เคยเจอตัวใหญ่ หนักถึง 5 กิโล

วันที่ 8 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชาวสวนยางพาราจับกบภูเขาตัวใหญ่ได้ ที่บ้านเลขที่ 74/3 ม.2 เทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา จึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่ในสวนผลไม้ พบนายบุญศักดิ์ แซ่เจียง อายุ 60 ปี และพาเดินไปดูกบที่ขังอยู่ในถังน้ำสีฟ้า ขนาด 200 ลิตร บริเวณหน้าบ้าน พร้อมจับขึ้นมาชั่งน้ำหนักให้ดู โดยใช้เชือกมัดที่ลำตัวของกบเพราะเกรงว่ากบจะกระโดดหนีไป กบภูเขาตัวนี้มีน้ำหนักประมาณ 1.2 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเริ่มจะหายากแล้วที่จะพบกบภูเขาตัวใหญ่ขนาดนี้ในปัจจุบัน

นายบุญศักดิ์ เล่าว่า ตนมีอาชีพกรีดยางพารา นานๆครั้งจะเข้าไปหากบในป่า เวลาไปก็จะไปกับเพื่อนๆ หลายคน และจะเลือกไปช่วงที่ใบยางพลัดใบ เพราะเป็นช่วงหน้าหนาวจะเข้าหน้าแล้ง ซึ่งจะไปในคืนข้างขึ้น เพราะช่วงนี้กบตัวใหญ่จะลงมาเล่นน้ำตามลำห้วยลำคลอง กบตัวที่จับได้นี้ ตนได้ไปจับกับเพื่อนๆ ที่ในป่าบนภูเขาริมเขตแดนไทย-มาเลเซีย จับมาได้ 7 ตัว ซึ่งตัวที่ตนได้นี้มีขนาดกลาง ตัวใหญ่สุดที่ได้ในรอบนี้ ประมาณ 2 กิโลกรัม ซึ่งเพื่อนตนได้นำไปทำเป็นอาหารแล้ว เหลือก็เพียงของตนที่กำลังจะนำมาผัดเผ็ด ปัจจุบันกบภูเขาตัวใหญ่เริ่มจะหายากเพราะส่วนใหญ่จะเข้าไปอยู่ในป่าลึก ตนเคยเห็นตัวใหญ่ก็ประมาณ 3-5 กิโลกรัม การจับก็จะใช้มือเปล่าจับ มีอุปกรณ์ก็เพียง ไฟฉายที่ใช้กรีดยางเท่านั้น เวลาเราส่องไฟไปที่กบ กบจะตาลายอยู่นิ่งจึงทำให้เราจับได้ด้วยมือเปล่า โดยไม่ต้องใช้ฉมวกหรืออุกรณ์อย่างอื่นเลย

สำหรับกบภูเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นภูเขาและป่าอุดมสมบูรณ์ พบมากแถบชายแดน ไทย-มาเลเซีย ในอำเภอเบตงและบริเวณใกล้เคียง เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะออกมาจากป่าดงดิบเพื่อผสมพันธุ์ในบริเวณลำธาร ชาวบ้านจะออกหากบภูเขาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เพื่อนำมาประกอบอาหารและจำหน่ายแก่ร้านอาหาร ราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท เนื้อกบภูเขาค่อนข้างขาวใสและเหลวกว่าเนื้อกบนา ไขมันสะสมน้อย ทำให้มีรสชาติดีกว่ากบนา กบภูเขาจึงเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่งของอำเภอเบตง