ประชุมหารือแนวทางหน่วยงานรายการชาวบ้านสร้างสัมพันธ์ แก้ไข ปัญหาข้อข้องกับยืนขอสัญชาติไทย
ประชุมหารือแนวทางหน่วยงานรายการชาวบ้านสร้างสัมพันธ์ แก้ไข ปัญหาข้อข้องกับยืนขอสัญชาติไทย
เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 67 ที่ผ่านมาเวลา 16:00 น.นายสงกรานต์ สันติกูล นายก.อบต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมคณะผู้บริหาร และ ส.อบต. พร้อมด้วย ว่าที่.รต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น/ และปลัดอำเภอแม่สะเรียง, ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันประชุมหารือแนวทาง โดยมีตัวแทนจากชาวบ้านในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง ที่อาศัยอยู่บริเวณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านปอหมื้อ อ.แม่สะเรียง จ. แม่ฮ่องสอน ได้ขอปรึกษาหารือกรณี บิดามารดามีสัญชาติไทย แต่บุตรที่เกิดมายังไม่สามารถขอสัญชาติไทยได้ หรือมีทะเบียนบัตรเป็นหมายเลข 0 หรือพี่น้องร่วมครอบครัวบางคนมีสัญชาติไทย แต่บางคนยังไม่สามารถขอสัญชาติไทยได้ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์อัตลักษณ์ด้วยการตรวจ (DNA) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อคนรวมถึงการเดินทางไปตรวจที่จังหวัดเชียงใหม่ร่วม 10,000 บาท ซึ่งบางรายก็ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปเนื่องจากมีรายได้น้อย นี่เป็นปัญหาหนึ่งที่มีข้อถกเถียงในหลายๆพื้นที่ของบริเวณภาคเหนือโดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้มาอาศัยตั้งรกรากถิ่นฐานและบุตรหลานศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนภาคบังคับ12 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารที่ผู้ใหญ่บ้านได้นำมาพิจารณาและรวบรวมข้อมูลนั้นก็พบว่าปัญหาบางส่วนเกิดจาก เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาคลอดบุตรแล้วไม่ได้ไปแจ้งเกิด ให้กับผู้ปกครองท้องที่ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยปล่อยระยะเวลาเนิ่นนานจนเมื่อมีความจำเป็นต้องขอบัตรประชาชนหรือเดินทาง ไปประกอบอาชีพการงานในพื้นที่อื่นหรือสมัครงานจะมีปัญหาในเรื่องเหล่านี้ซึ่งจากการพูดคุยโดย ปลัดอำเภอแม่สะเรียง ได้แจ้งให้ทราบถึงข้อขัดข้องและหลักปฏิบัติตามตัวบทกฎหมายที่ได้เปิดอนุโลมไว้ด้วยการออกกฎกระทรวงในการพิสูจน์สัญชาติ เมื่อปี 2554 ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็มีเพียงบางส่วนที่ให้ความสำคัญและเดินทางมาแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเรื่องต่างๆเหล่านี้ หากจะมีการ ตรวจสอบสิทธิ์ต่างๆ ที่ถูกต้อง จำเป็นต้องมีการรับรองจากผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งหากมีที่ไปที่มาไม่ถูกต้องเช่น ไปแต่งงานอยู่นอกเขตประเทศไทย แล้วอพยพถิ่นฐานไปและเมื่อกลับเข้ามาจะขอมาเป็นบุคคลที่มี สัญชาติไทย ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านไม่รับรองในเอกสารหรือตัวตนดังกล่าว นี่ก็เป็นอีกข้อจำกัดหรือปัญหาหนึ่งที่ทุกคนต้องใส่ใจในประเด็นดังกล่าว และหากจะมีการพิสูจน์กันในพื้นที่ก็จะต้อง นำเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางลงมาดำเนินการซึ่ง ค่อนข้างเป็นไปด้วยความจำกัดในเรื่องของระยะเวลา สถานที่ การเดินทางคมนาคม เป็นต้น ซึ่งจากการหารือพูดคุยชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจและต้องไปบอก สมาชิกในครอบครัวว่าเรื่องการแจ้งเกิดหรือแจ้งตาย เป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ในพื้นที่ราบสูง เพื่อเป็นการ ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างเคร่งครัดและป้องกันการสวมสิทธิ์สวมบัตรประชาชน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นต้องเห็นใจและเข้าใจเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือฝ่ายปกครองที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง และยึดหลักตัวบทกฎหมายเป็นหลัก ด้วยตนเองได้เปิดเผยว่าหากจะมีการออกกฎระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกนั้นจำเป็นต้องประกาศเป็นกฎกระทรวงหรือมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองจะต้องเป็นผู้รวบรวมปัญหาต่างๆเพื่อนำเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสต่อไป