รวบ 2 ราย ขสป.น้ำปาด สนธิกำลัง อช.ภูสอยดาว-กรมป่าไม้-ตชด. สกัดจับรถกระบะ ขนไม้ประดู่ – ไม้ชิงชัน
รวบ 2 ราย ขสป.น้ำปาด สนธิกำลัง อช.ภูสอยดาว-กรมป่าไม้-ตชด. สกัดจับรถกระบะ ขนไม้ประดู่ – ไม้ชิงชัน
วันที่ 24-25 มกราคม 2567 คณะเจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการโดยนายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ตามข้อสั่งการของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในคราวลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่กลุ่มป่าต้นน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ได้สั่งการให้จัดตั้งจุดสกัดเฝ้าระวังการลักลอบขนย้ายไม้ ปฏิบัติงานตามนโยบายเชิงรุก สร้างเครือข่ายในด้านการข่าวแจ้งเบาะแสช่วยสกัดกั้น เพิ่มความถี่การตรวจลาดตระเวน และบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งหน่วยงานภายในและภายนอก โดยนายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า วันที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 18.30 น. นายไพรัชย์ วงศ์หน่อ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำปาด ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำปาด ว่า มีรถไถ (แทรคเตอร์) จากบ้านห้วยมุ่นวิ่งเข้ามาในเขตหมู่บ้านห้วยโป่งในช่วงเวลาตอนเย็น อาจจะเข้ามาชักลากไม้ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่รวมจำนวน 5 นาย ออกไปลาดตระเวนตรวจสอบ
ขณะตรวจมาถึงสะพานห้วยน่อง บ้านห้วยโป่ง ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พบรถไถลักษณะตรงตามที่สายข่าวแจ้ง บนถนนสาย 1268 (อำเภอน้ำปาด – บ้านห้วยมุ่น) วิ่งตามหลังรถกระบะติดคอกเหล็กและมีผ้าใบคลุม ลักษณะบรรทุกสิ่งของหนัก โดยได้ขับรถยนต์แซงขึ้นไปและสังเกตเห็นว่าสิ่งของที่อยู่ในรถน่าจะเป็นไม้ท่อน จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถกระบะคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องแซงกลับและพยายามขับหนี คณะเจ้าหน้าที่ได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามไป ปรากฏว่ามีรถกระบะอีกคันข้างหน้าวิ่งกีดขวางทางเหมือนพยายามจะกันไม่ให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่แซงขึ้นไปได้
นายไพรัชย์ วงศ์หน่อ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำปาด จึงได้โทรศัพท์ประสานนายทศพร ปภากุล ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สบอ.11 (พิษณุโลก) ให้สั่งการและขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว สกัดรถกระบะคันดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. นายฟารุต ใจทัศน์กุลหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 315,316,317 สถานีตำรวจภูธรเด่นเหล็ก และปกครองอำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ตั้งด่านใช้เครื่องกีดขวางสกัดกั้นเส้นทางบริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ ภูสอยดาว เพื่อสกัดจับรถกระบะลักษณะตามแจ้งได้ 2 คัน โดยมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำปาด และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อต.6 (บ้านม่วง) กรมป่าไม้ ติดตามรถกระบะ 2 คันมาด้วย จากการตรวจสอบพบสิ่งของที่บรรทุกมาในท้ายกระบะรถยนต์ทั้ง 2 คัน ดังนี้
– รถยนต์คันที่ 1. ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ผต 9052 นครปฐม บรรทุกไม้ชิงชันท่อน จำนวน 5 ท่อน วัดขนาดโต x ยาว เป็นเซนติเมตร ท่อนที่ 1 : 92 x 222 ท่อนที่ 2 : 110 x 232 ท่อนที่ 3 : 108 x 220 ท่อนที่ 4 : 121 x 222 ท่อนที่ 5 : 163 x 200 ปริมาตรรวม 1.27 ลบ.ม.
– รถยนต์คันที่ 2. ยี่ห้อเชฟโรเล็ต หมายเลขทะเบียน บต 7732 ลพบุรี บรรทุกไม้ประดู่ท่อน จำนวน 3 ท่อน วัดขนาดโต x ยาว เป็นเซนติเมตร ท่อนที่ 1 : 295 x 216 ท่อนที่ 2 : 250 x 220 ท่อนที่ 3 : 160 x 210 ปริมาตรรวม 3.03 ลบ.ม.
ไม้ท่อนทั้งหมดไม่มีรูปรอยดวงตราใดๆ ตีประทับไว้ ลักษณะยังไม่เคยผ่านการใช้งาน และไม่มีเอกสารแสดงการได้มาแต่อย่างใด สอบถามคนขับรถบรรทุกไม้ทั้ง 2 คน ให้การว่าได้รับมาจากผู้จ้างวานในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดต่อกันทางโทรศัพท์มือถือ ให้ขนไม้ไปส่งโดยจะได้รับค่าจ้างเมื่อไปถึงปลายทางแล้ว จำนวน คันละ 10,000 บาท ส่วนปลายทางอยู่ที่ใด ผู้จ้างวานดังกล่าวจะโทรศัพท์บอกเป็นระยะๆ
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมดำเนินการรวบรวมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมและแจ้งความดำเนินคดีจับกุมคนขับรถทั้ง 2 ราย เป็นชายวัย 34 ปี เป็นผู้ควบคุมรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเล็ต หมายเลขทะเบียน บต 7732 ลพบุรี และชายวัย 31 ปี เป็นผู้ควบคุมรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ผต 9052 นครปฐม พร้อมทั้งตรวจยึดรถยนต์และไม้ท่อนที่บรรทุกมาไว้เป็นของกลางประกอบการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง โดยมอบให้หน่วยป้องกันรักษาป่าห้วยมุ่น กรมป่าไม้ รับเป็นผู้กล่าวโทษต่อพนักสอบสวน สภ. เด่นเหล็ก และดำเนินการเกี่ยวกับคดีและของกลาง
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ประสานบูรณาการความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำปาด, อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อต.6 (บ้านม่วง) กรมป่าไม, จนท.ตำรวจ สภ.เด่นเหล็ก, จนท.ตำรวจ ร้อย.ตชด.ที่ 315, 316 และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.3 (ลำปาง) ในการร่วมกันสกัดจับรถกระบะลักลอบขนไม้ จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ในที่สุด และจะได้ขยายผลเพิ่มเติม เพื่อหาผู้ร่วมขบวนการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป