เตือนภัยชายขี้เหงา สืบนครบาลรวบอดีตแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ตัวการหลอกลวกก๋วยเตี๋ยว อ้างเป็นแค่บัญชีม้า
เตือนภัยชายขี้เหงา สืบนครบาลรวบอดีตแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ตัวการหลอกลวกก๋วยเตี๋ยว อ้างเป็นแค่บัญชีม้า
เตือนภัยผู้ชายขี้เหงา การหลอกลวงสุดแสบที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัย MSN Webcam หลอกให้โชว์ของลับก่อนขู่แบล็คเมล ณ ปัจจุบัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำรูปแบบการหลอกลวงนี้ไปใช้แล้ว ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ล่าสุดหนุ่มตกเป็นเหยื่อ โดยคนร้ายปลอมโปรไฟล์เป็นครูเบส ครูสาวชื่อดังในโลกออนไลน์ หลอกคอลเสียวชวนสยิวก่อนจะเชือดด้วยการขอให้ “ลวกก๋วยเตี๋ยว” ให้ดู เมื่อเหยื่อหลวมตัวจะถูกคนร้ายบันทึกวีดิโอไว้ ก่อนจะนำมาข่มขู่แบล็คเมลเรียกทรัพย์สิน โดยเหยื่อรายนี้เสียเงินไปกว่า 50,000 บาท ยังถูกข่มขู่อย่างต่อเนื่องจนเกือบคิด “ทำร้ายตัวเอง” ล่าสุด น.1 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จับกุมตัวหนึ่งในขบวนการซึ่งถูกออกหมายจับ คือ นาย นิพนธ์ฯ ชายแก่เร่ร่อนอายุกว่า 64 ปี เปิดใจกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกเกณฑ์ไปเพื่อไปแสกนใบหน้าในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต 6 วัน
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา , ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ , จ.ส.ต.สรศักดิ์ ด้วงชู , ส.ต.อ.ณัฐกิต เชื้อสุข , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย , ส.ต.ท.คเชนทร์ ดำคล้ำ , ส.ต.ต.เมธิชัย คำดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และชุด PCT5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว
นาย นิพนธ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1114 ถ.ราชนิกูล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.4051/2566 ลงวันที่ 10 พ.ย. 66
โดยกล่าวหาว่า “รีดเอาทรัพย์”
จับกุมตัวได้ที่ ริมชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พฤติการณ์กล่าวคือ มหันตภัยยุค 5G สำหรับเหล่าพ่อบ้าน “หลอกลวกก๋วยเตี๋ยว” มุขการหลอกลวงที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัย Y2K ที่มิจฉาชีพจะหลอกลวงให้เหล่าชายหนุ่มลวกก๋วยเตี๋ยวให้ดู ผ่านทาง MSN , Webcam หรือแพล็ตฟอร์มอื่นๆ วิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเหล่ามิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำรูปแบบการหลอกนี้ไปใช้ในการหลอกลวงแล้ว ซึ่งมีเหล่าพ่อบ้านได้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งถือภัยสังคมยิ่งเพราะการหลอกลวงลักษณะนี้เหยื่อเกือบทุกรายจะมีความคิดทำร้ายตัวเอง ล่าสุดหนุ่มวัยกลางคนหน้าที่การงานดี อนาคตไกล ต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ โดยคนร้ายสร้างโปรไฟล์เป็นครูเบส ครูสาวชื่อดังในโลกออนไลน์ และเหยื่อได้หลวมตัวแชทข้อความสนทนาตามประสาชายโสด ด้วยความแสบทรวงของขบวนการนี้ ใช้มารยาต่างๆนาๆทำให้เหยื่อเคลิบเคลิ้ม ก่อนเชือดด้วยการขอ “คอลเสียว” โดยจะหว่านล้อมให้เหยื่อลวกก๋วยเตี๋ยวให้ดูโดยอ้างว่าถ้าทำให้ดูจะยอมตกลงคบเป็นแฟน ซึ่งเหยื่อที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก สติสัมปชัญญะมักลดลง เหยื่อได้หลวมตัวก่อนจะสาวเจ้าโลกให้ดูผ่านวีดิโอคอล ซึ่งเห็นทั้งอวัยวะเพศเห็นทั้งใบหน้า ซึ่งได้ถูกมิจฉาชีพบันทึกวีดิโอไว้ทุกกระบวนท่า ซึ่งหลังจากนั้นครูสาวแสนสวยได้เปลี่ยนเป็นมิจฉาชีพทันที พร้อมข่มขู่เรียกเงิน หากไม่จ่ายจะส่งคลิปให้เพื่อนในเฟสบุ๊คของเหยื่อทั้งหมด ผู้เสียหายกลัวจึงยอมโอนเงินให้ แต่ก็ยังถูกข่มขู่เรื่อยมา รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง โดยทั้งหมดโดยไปกว่า 50,000 บาท จึงทนไม่ไหวเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเหยื่อถึงขั้น “อยากทำร้ายตัวเอง ซึ่งต่อมาได้มีการสอบสวนจนทราบว่าหนึ่งในขบวนการนี้ คือ นายนิพนธ์ 64 ปี ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ ซึ่งจากเบาะแสทราบเพียงว่าเป็นบุคคลที่เร่ร่อนอยู่ตามริมชายหาดพัทยา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล และ PCT5 ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี ตระเวนเดินตามริมชายหาดเป็นเวลากว่า 3 วัน กระทั่งวันที่ 8 ม.ค. 66 จึงสามารถจับกุมตัว นายนิพนธ์ฯ โดยจับกุมตัวได้ที่ ริมชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ในชั้นจับกุม นายนิพนธ์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เมื่อประมาณปี 2566 ตอนนั้นพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแถบชาญเมืองโคราช ได้มีคนมาตระเวนเกณฑ์คนจากหมู่บ้านที่ละ 100-200 คน ไปยัง จ.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อใช้บัญชี ซึ่งตนเองก็ได้ตกลงไปด้วย โดยเมื่อไปถึงจะให้พักอยู่ในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นจะให้เราเปิดบัญชีมาใช้ในรับเงินจากการหลอกลวง โดยจะมีที่พักมีอาหารคอยเลี้ยงดู และเรามีหน้าที่แค่คอยแสกนใบหน้าให้ ซึ่งครานั้นตนเองอยู่ในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 6 วัน จากนั้นก็กลับมายังประเทศไทย โดยตนเองได้ค่าตอบแทนบัญชีละ 7,000 บาท ตอนนั้นเปิดไป 3 บัญชี ได้เงินมา 21,000 บาท ซึ่งหลังจากวันนั้นตนเองก็ไม่ทราบแล้วว่าบัญชีจะถูกนำไปใช้หลอกลวงอะไรบ้าง” หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าในปัจจุบัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรูปแบบนี้ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำมาใช้ ถือเป็นภัยอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเหยื่อจะสูญเงินเป็นจำนวนมากให้แก่กลุ่มบุคคลเหล่านี้แล้ว ยังจำต้องแลกมาด้วยชื่อเสียง เกียรติยศ และที่สำคัญคือ บาดแผลทางจิตใจที่ยากต่อการเยี่ยวยา จนบางรายไม่กล้าจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ และบางรายถึงขั้นคิดจะจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีกับอดีตที่ผิดพลาด จึงขอฝากเตือนเหล่าบุรุษทุกท่านที่ต้องการหาเพื่อนหรือพูดคุยกับบุคคลอื่นๆ เคยพึงระลึกไว้เสนอว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ” และขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังเหล่าพ่อบ้านหรือบุคคลใด เชื่อว่าหากตนเคยถูกหลอกลวง แบล็คเมล ในลักษณะนี้ สามารถติดต่อให้เบาะแสทาง เฟสบุ๊คเพจ สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง “แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที” ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”