กาฬสินธุ์จับกุ้งขายปีใหม่คึกคักวันละ 50 ตันเงินสะพัดวันละกว่า 1 ล้านบาท
บรรยากาศการจับกุ้งก้ามกรามจำหน่าย ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากซบเซามากว่า 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และประสบภัยน้ำท่วม ด้านหัวหน้ากลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งแปลงใหญ่ระบุ ในภาพรวมช่วงนี้มีกุ้งออกสู่ตลาดวันละประมาณ 50 ตัน เงินสะพัดวันละกว่า 1 ล้านบาท วอนรัฐช่วยผู้เลี้ยงกุ้ง เนื่องจากต้นทุนค่าพันธุ์กุ้งและอาหารกุ้งยังสูง หลังปีใหม่ขอให้ปรับลดราคา เพี่อเป็นของขวัญปีใหม่ผู้เลี้ยงกุ้งด้วย
วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการจับกุ้งก้ามกราม สัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะขายดีมากในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และถือเป็นเทศกาลกินกุ้งของ จ.กาฬสินธุ์ก็ว่าได้ โดยจะมีพ่อค้าคนกลางทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ทั่วภาคอีสาน ออร์เดอร์เข้ามาและนำรถขนส่งกุ้งมาเข้าคิวรอรับกุ้งสดจากบ่อไปจำหน่ายตั้งแต่เช้ามืด เพราะระยะทางไกลและให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า
นางพัชราวลัย คณะทอง หัวหน้ากลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งแปลงใหญ่ บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในหน้าเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ 2567 นี้ ถือเป็นโอกาสทองของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม ชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเลี้ยงกันมากในเขต ต.บัวบาน ต.นาเชือก ต.เขาพระนอน ต.คลองขาม ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด รวมทั้ง ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก และ ต.ลำคลอง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ได้รับน้ำสำหรับทำการเลี้ยงกุ้งจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว ในภาพรวมช่วงวัน 2 วันมานี้มีรถขนส่งกุ้งเข้ามารับกุ้งไม่น้อยกว่าวันละ 100 เที่ยว เที่ยวละ 150-300 ก.ก. และคาดว่าส่งกุ้งไม่น้อยกว่าวันละ 50 ตัน เงินสะพัดไม่น้อยกว่าวันละ 1 ล้านบาท
นางพัชราวลัยกล่าวอีกว่า บรรยากาศใน การจับกุ้งช่วงนี้ กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากซบเซาไปประมาณ 3 ปีเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และประสบภัยน้ำท่วมในฤดูฝนที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำหรับ กลุ่มเลี้ยงกุ้งแปลงใหญ่ของตน สำรองกุ้งไว้จำหน่ายในช่วงนี้ประมาณ 10 ตัน โดยจำหน่ายที่ราคาปากบ่อ ก.ก.ละ 250 บาท หากนำไปส่งลูกค้าต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัดก็จะบวกราคาเพิ่ม ตามระยะทางใกล้ไกลและขนาดตัวกุ้งที่คัดไซส์จำหน่าย กก.ละ450- 500 บาท
อย่างไรก็ตาม กุ้งก้ามกราม เป็นของดีประจำ จ.กาฬสินธุ์ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีตลาดจำหน่ายกว้างขวางทั่วประเทศ รวมทั้ง สปป.ลาว เพราะเนื้อแน่น รสชาติอร่อย ประกอบอาหารได้หลายเมนู ถือเป็นซอฟพาวเวอร์อีกอย่างหนึ่งที่ภาคภูมิใจของจังหวัด สร้างมูลมวลรวมต่อปีหลายร้อยล้านบาท แต่ยังขาดการสนับสนุนส่งเสริมจากภาครัฐเท่าที่ควร เกษตรกรส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้พันธะสัญญากับนายทุน ต้องซื้อพันธุ์ลูกกุ้งตัวละ 25-30 สตางค์ และอาหารกุ้งที่สูงขึ้นตามลำดับ ถุงนึงน้ำหนัก 25 ก.ก.แต่ราคาถุงละ 1,000-1,200 บาท อายุกุ้ง 5-6 เดือนจับจำหน่าย ทำให้แบกรับต้นทุนสูงมาก จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ โดยมีนโยบายควบคุมราคาและปรับลดต้นทุนการเลี้ยงกุ้ง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามด้วย