สระบุรี/รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ ศม.สระบุรี
สระบุรี/รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ ศม.สระบุรี
วันที่ 28 ธ.ค.2566 เวลา 08.00น.ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศูนย์การทหารม้าจังหวัดสระบุรี พลเอกโดมศักดิ์ คำใสแสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยมีนายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พล.ต.สมศักดิ์ รักษาแสง ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า พล.ต. เวชศักดิ์ ขันธอุบล ผู้บัญชาการมนฑลทหารบกที่ 18 ข้าราชการศาล ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยองค์กร สมาคม ชมรมต่างๆ ร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณและแสดงความจงรักภักดีของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
เนื่องด้วยวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ โดยในวันนี้ชาวไทยจะนำพวงมาลัยไปถวายสักการะที่พระบรมราชนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณและแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) มีพระนามเดิมว่า สิน เป็นบุตรของนายไหฮองกับนางนกเอี้ยง เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2272 รับราชการอยู่ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ได้รับความดีความชอบจึงได้เลื่อนยศขึ้นเป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองตาก ราษฎรจึงขนานนามพระองค์ว่า พระเจ้าตากสิน พระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ การกู้เอกราช เมื่อปี พ.ศ. 2309 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ในสมัยพระเจ้าเอกทัศ และได้เสียกรุงแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310
เหตุการณ์ในกรุงศรีอยุธยาขณะนั้นเกิดความระส่ำระสาย ทหารพม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ พระยาตากเห็นว่าคงสู้พม่าไม่ได้แล้ว จึงนำทหารจำนวนหนึ่งตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมา และได้รวบรวมกำลังอยู่ที่เมืองจันทบุรี แล้วยกทัพกลับไปตีพม่าที่กรุงศรีอยุธยา ทัพของพระยาตากสามารถตีพม่าจนแตกพ่ายไป พระยาตากสามารถรวบรวมผู้คนกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่าได้ภายในเวลา 7 เดือน – การสร้างและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง
หลังจากได้กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนจากพม่าได้แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าทางกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากที่จะฟื้นฟูให้เจริญเหมือนเดิมได้ พระองค์จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่กรุงธนบุรี แล้วทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระบรมราชาธิราชที่ 4 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 ครองกรุงธนบุรีอยู่ 15 ปี
นับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ปกครองกรุงธนบุรี นอกจากจะทรงกู้เอกราชและทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงแล้ว พระองค์ยังได้ขยายอาณาเขตโดยตีเวียงจันทน์ได้และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่เมืองหลวง ทรงทำนุบำรุงศาสนาและทรงส่งเสริมให้คนแต่งหนังสือต่าง ๆ ขึ้น เพราะหนังสือตำราอันมีค่าถูกพม่าเผาไปเกือบหมด ทรงเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นอย่างดีแม้ว่าจะต้องทำสงครามกับพม่าตลอดเวลาก็ตาม ต่อมา คณะรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่พระองค์ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน” และถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อยกย่องพระองค์เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ผู้กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย
/ดำรงค์ ชื่นจินดา ผู้สื่อข่าวสระบุรี รายงาน