ประจวบคีรีขันธ์-“สุวัจน์” เปิดมหกรรมอนุรักษ์และประกวดพระเครื่องพระบูชาระดับประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจสายมู ครั้งแรกที่บลูพอร์ต หัวหิน
ประจวบคีรีขันธ์-“สุวัจน์” เปิดมหกรรมอนุรักษ์และประกวดพระเครื่องพระบูชาระดับประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจสายมู ครั้งแรกที่บลูพอร์ต หัวหิน
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.66 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานเปิดมหกรรมการอนุรักษ์และประกวดพระเครื่องพระบูชาระดับประเทศ ซึ่งถือเป็นมหกรรมการประกวดพระงานใหญ่สุดของปีนี้ โดยมี นายสัญญา วิจิตรจินดา ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง จ.ประจวบฯ นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ อดีตผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายนพพร บุญลโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพย์ประกันภัย นายพิศาล เตชะวิภาค (ต้อย เมืองนนท์) นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ และคนวงการพระเครื่องจากทั่วทั้งประเทศมาเปิดแผงนำพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ต่าง ๆ รวมถึงเครื่องราง ของขลังกว่าพันแผงให้ผู้ที่สนใจเลือกเช่าบูชากันอย่างคึกคัก ระหว่างวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับเมืองหัวหิน เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มีการจัดมหกรรมการอนุรักษ์ ประกวดพระเครื่องพระบูชา ในครั้งนี้ โดยมีเหล่าบรรดาคนในวงการพระกว่าพันคน นำพระเครื่องพระบูชาที่มีมูลค่าและคุณค่าทางจิตใจมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก นับเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจของหัวหิน สร้างรายได้ให้กับประชาชนและโรงแรมห้างร้านต่าง ๆ พระเครื่อง พระบูชา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยพยุงความรู้สึกของคน ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้รู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับภาวะวิกฤตต่าง ๆ และรู้สึกปลอดภัย วันนี้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะบ้านเรามีวัดถึง 40,000 กว่าวัด มีพระเครื่องพระบูชาที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม กิจกรรมวันนี้จึงสร้างประโยชน์หลายอย่าง ทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ พระเครื่อง พระบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลโดย พร้อมกันนี้ตนได้นำหลวงพ่อคูณ “รุ่นยอดธง” มามอบเพื่อร่วมทำบุญเพื่อการกุศล โดยรุ่นยอดธงเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อคูณสร้างก่อนที่ท่านจะมรณภาพ โดยหลวงพ่อได้ทำการปลุกเสกเองที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เราเรียกว่า รุ่น 90 เพราะสร้างขึ้นในปีที่ท่านมีอายุครบ 90 ปี (รุ่นแรกสร้างเมื่อหลวงพ่ออายุ 72 ปี) โดยส่วนตัวตนศรัทธาหลวงพ่อคูณ และได้มีโอกาสใกล้ชิดทำให้รู้ถึงพุทธคุณของหลวงพ่อ อย่างไรก็ตามท่านมักจะมองทุกอย่างด้วยหลักทางวิทยาศาสตร์ มีเหตุ มีผล แม้จะมีคนบอกว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ มีหลวงพ่อแล้วแคล้วคลาดปลอดภัย แต่ท่านก็มักจะสอนให้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
“ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ตรงที่อยากจะแบ่งปันคือ เมื่อ 30 ปีก่อน หลวงพ่อคูณได้รับนิมนต์ให้ไปหล่อพระ รุ่น“คูณพิทักษ์” ที่โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ผมกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็ไปร่วมงานด้วย เมื่อหล่อเสร็จ ท่านได้มอบพระให้กับพล.อ.ชาติชาย และผมคนละองค์ ผมก็รับมาเก็บไว้ แล้วเดินทางเข้า กทม. พอออกจากงานได้สัก 30 นาที ตอนที่รถผ่านโค้ง ของถนน แถวอำเภอปักธงชัย มีรถสิบล้อวิ่งสวนมา ทำให้รถเสียหลัก ตกไปที่ไหล่เขา ความลึกประมาณ 30 เมตร ปรากฏว่าผมไม่เป็นอะไรเลย ชาวบ้านที่มาช่วยต่างเดากันว่าผมต้องมีหลวงพ่อคูณติดตัวมาแน่ ๆ ซึ่งก็จริง นั่นคือประสบการณ์ตรงที่ผมรับรู้ถึงพุทธคุณของหลวงพ่อคูณ” ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว
สำหรับรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศในการประกวดพระแต่ละรายการได้รับเหรียญรางวัลเกียรติยศ จากนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พร้อมด้วยเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลชนะเลิศแต่ละรายการ (ที่1) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่น นะ รวย ๙ เฮง เนื้อทองแดงอะไหล่ทอง (ที่ 2) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่น นะ รวย ๙ เฮง เนื้อทองระฆัง (ที่ 3) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่น นะ รวย ๙ เฮง เนื้อชนวนตั้งธาตุ (ที่ 4) รับเหรียญพระครูปลัดสุขวัฒน์ (พระอาจารย์ต้อม) รุ่น นะ รวย ๙ เฮง เนื้อทองแดงผิวไฟ.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781