ชาวหนองบัวลำภูจัดเต็มต้อนรับ ครม.สัญจร ชาวบ้านเฮถือเป็นเกียรติประวัติขอบคุณ “ไชยา”
ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมเปิดบ้านเป็นเจ้าภาพ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัว พร้อมขอบคุณ “รมช.ไชยา” ที่ผลักดันโครงการเลือกลงพื้นที่หนองบัวลำภู ถือเป็นเกียรติประวัติสูงสุด เรียกร้องควบคุมราคาต้นทุนการผลิตภาคการเกษตร
วันที่ 3 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ มีกำหนดเดินทางตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1/2566 ในพื้นที่จ.หนองบัวลำภู ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค.2566 นั้น
ล่าสุด นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยหลังลงพื้นที่ติดตามความเรียบร้อย สถานที่ต้อนรับ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 ที่วัดสว่างชัยศรี บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พบว่าทุกจุดมีความพร้อม 100% โดยส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ท้องที่ ผู้ประกอบการสินค้าโอทอป มีความพร้อมเพรียงเตรียมการต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง
นายไชยากล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการต้อนรับ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 ที่ จ.หนองบัวลำภูดังกล่าว จัดทำเป็นรูปโมเดล 3 ก. แก้จน แก้ปัญหายาเสพติด และแก้ปัญหาสารเคมีทางเกษตร รวมทั้งตรวจติดตามประเด็นการแก้ไขปัญหายาเสพติด กลไกการบำบัดฟื้นฟูโดยชุมชนเป็นฐาน ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด “หนองบัวลำภู โมเดล” นอกจากนั้นไปเยี่ยมชมแปลงผักเกษตรผสมผสาน เยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน รับฟังแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้สารเคมีในพื้นที่แนวทางการแก้จนภาคการเกษตร การขับเคลื่อนเกษตรแปลงใหญ่ young smart famer, และรับฟังแนวทางการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มแปรรูปปลาบ้านห้วยบง ตรา ๑ เดียว, ชมการจักสานจากคล้าของผู้สูงอายุ, รับฟังแนวทางการยกระดับ
นายไชยากล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับไฮไลท์จะเป็นกิจกรรมทางด้านกีฬา ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีชื่นชอบ ซึ่งจะมีการแข่งขันฟุตบอลกับทีมเยาวชนฮีโร่สุวรรณคูหา รวมไปถึงการผลักดันผ้าไหม ผ้าขิดสลับหมี่ ลายบัวลุ่มภู ผ้าฝ้ายแกมไหมทอมือลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัด ซึ่งเป็น “Soft power” ตามนโยบายรัฐบาลนายกเศรษฐา ทั้งนี้ บรรยากาศในการเตรียมต้อนรับ ครม.สัญจรโดยทั่วไปใน จ.หนองบัวลำภู มีความคึกคักเป็นอย่างมาก สังเกตจากการขึ้นป้ายต้อนรับตามแนวเส้นทาง และสถานที่ต้อนรับครม.สัญจร ถือเป็นมิติใหม่ในการเปิดเมืองหนองบัวลำภู ต้อนรับครม.สัญจร ในครั้งนี้
ด้านนางจิราภา รักษาภักดี หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตร สนง. เกษตรและสหกรณ์ จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า สำหรับสถานที่ต้อนรับ ครม.สัญจรครั้งที่ 1 จุดวัดสว่างชัยศรี บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง กำหนดต้อนรับ ครม.สัญจรวันที่ 4 พ.ย.66 เวลาประมาณ 14.00 น. โดยจากการที่ทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันเตรียมการต้อนรับอย่างจัดเต็มทุกกลุ่ม ทุกบูธ ขณะนี้การเตรียมความพร้อมเสร็จสมบูรณ์ โดยมีส่วนราชการ กลุ่มผู้ประกอบการ นำผลิตภัณฑ์มาจัดบูธแสดงผลงานเป็นจำนวนมาก
ขณะที่นายเหมราช หาญเชิงชัย นายก อบต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง กล่าวว่า ทันทีที่ทราบว่าจะได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับ ครม.สัญจร พบว่าทุกภาคส่วนในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู โดยเฉพาะชาว ต.ยางหล่อทุกสาขาอาชีพตื่นตัวกันมาก ถือเป็นเกียรติแก่ประวัติพื้นที่และชาวหนองบัวลำภูทุกภาคส่วน ที่ได้มีโอกาสต้อนรับ ครม.สัญจรครั้งนี้ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณนายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีส่วนผลักดันให้เกิดโครงการ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 มาลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำครั้งนี้ ซึ่งโอกาสดีๆอย่างนี้หาไม่ง่ายนัก อย่างไรก็ตาม ในการเป็นเจ้าภาพต้อนรับ ครม.สัญจรครั้งนี้ คาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอป และของดีที่มีอยู่อย่างหลากหลายใน ต.ยางหล่อ และหลายชุมชนในจ.หนองบัวลำภู ให้ประชาคมรู้จักหนองบัวลำภูมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการขยายช่องทางการตลาด เป็นการต่อยอด เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ดีมากกว่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการสอบถาม สิ่งที่ชาวบ้านต้องการที่จะสะท้อนความต้องการไปถึงรัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นในส่วนของภาคการเกษตรกรรม เพราะเป็นอาชีพหลักของชาวหนองบัวลำภู ทั้งอ้อย ข้าว และมันสำปะหลัง จึงอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งปรับราคารับซื้อผลผลิตให้สูงขึ้น ตลอดทั้งปรับลดค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงลงอีกด้วย ขณะที่นโยบายเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ก็ยังรอคอยความชัดเจนจากรัฐบาลอยู่ หากรัฐบาลจัดให้ ก็จะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนด้านค่าครองชีพ และแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน ท้ายนี้ขอขอบคุณที่รัฐบาลได้จัดสรรเงินค่าเก็บเกี่ยวข้าวไร่ละ 1,000 บาท และคาดว่าหลัง ครม.สัญจร ครั้งที่ 1 ทางรัฐบาลก็จะได้นำข้อมูลไปคิดวิเคราะห์ ประมวลผล เพื่อนำไปเป็นโมเดลนำความอยู่ดี กินดี มาสู่พี่น้องประชาชนชาวหนองบัวลำภูและสังคมไทยทั่วประเทศต่อไป