กาฬสินธุ์แห่งเดียวในโลกจัดงานลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้างมูลค่า 100 ล้าน
กาฬสินธุ์แห่งเดียวในโลกจัดงานลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้างมูลค่า 100 ล้าน
อบต.หนองช้าง อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตผ้าไหมผู้ไท จัดงานประเพณีลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้างอย่างยิ่งใหญ่ อลังการ นำผลิตภัณฑ์ผ้าไหม แบรนด์ “ผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง” มูลค่า 10 ล้านร่วมขบวนแห่ และนางรำแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมผู้ไท ราคาชุดละ 30,000-50,000 บาท พร้อมออกร้านจำหน่ายผ้าไหมผู้ไทกว่า 20 ลาย เพื่อเปิดช่องทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์ แห่งเดียวในโลกที่มีการจัดงานลอยกระทงประเพณีเปิดตัวผ้าไหมผู้ไท ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชาว”ผู้ไทหนองช้าง” โดยแท้
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคืนวันที่ 25 พ.ย.66 ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ อบต.หนองช้าง และหนองแก่นทราย อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง อบต.หนองช้าง ประจำปี 2566 โดยมีนายพงศ์ภรณ์ ภาระขันธ์ นายก อบต.หนองช้าง พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มผู้ผลิตและเครือข่ายผ้าไหมผู้ไท ประชาชน เยาวชน ที่แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง ร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายพงศ์ภรณ์ ภาระขันธ์ นายก อบต.หนองช้าง กล่าวว่า ในการจัดงานประเพณีลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง อบต.หนองช้าง ประจำปี 2566 กำหนด 3 วัน ระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย.66 โดยมีการจัดกิจกรรมการแห่กระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในพื้นที่ ต.หนองช้าง การประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทงสวยงาม รำวงย้อนยุค โดยเฉพาะการออกร้านผลิตภัณฑ์โอทอปของผู้ประกอบการ ผู้ผลิตชาว ต.หนองช้าง การจำหน่ายสินค้า 4 ภาค การส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวและผู้มาร่วมงาน แต่งกายด้วยผ้าไทหรือผ้าพื้นเมือง
“ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ให้พี่น้องประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมผู้ไทหนองช้างทุกประเภท ที่บรรพบุรุษรังสรรค์ด้วยภูมิปัญญาให้คงอยู่สืบไป นอกจากนี้ยังเป็นการส่งแสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประชาชน จึงขอเชิญชวนมาท่องเที่ยวโดยพร้อมเพรียงกัน เพราะเป็นการจัดงานประเพณีลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง ที่ยิ่งใหญ่และมีแห่งเดียวในโลก” นายพงศ์ภรณ์กล่าว
ด้านนางนุจจิรา สารจิตร นักวิชาการศึกษา อบต.หนองช้าง ในฐานะผู้ผลิตลายผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง สืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ทำกันเองทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ คือปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ย้อมสีธรรมชาติ ถักทอด้วยมือ การคิดค้นลายผ้า การแปรรูป และจำหน่าย ซึ่งผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง มีความสวยงาม โดดเด่น มีจำนวน 21 ลาย เช่น ลายเครืออุ้มดอกแก้วอุ้มจุ้มตีนหมา ลายดาวขาเขอุ้มใบบุ่นก้านก่อง ลายบุ่นหว่านอุ้มหางปลาวา ลายดอกผักแว่น ลายดอกนาคหัวซุมอุ้มพันมหาน้อย ลายขอเครืออุ้มยอดช่อฟ้า ลายดอกหงอนเงือก ลายดอกตาบ้ง ลายดอกดาวไต่เครือ ลายดอกนาคหัวสร้อย
ซึ่งผืนผ้าแต่ละผืนใช้เวลาทอตั้งแต่ 1-4 เดือน ความยากง่ายขึ้นอยู่กับลาย จำหน่ายขั้นต่ำผืนละ 3,000 บาทถึงผืนละ 100,000 บาท สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการปีละประมาณ 10 ล้านบาท รายได้มวลรวมที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
ขณะที่นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้รู้สึกมีมูลค่าและเพิ่มมูลค่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในบริเวณจัดงาน ทั้งในส่วนของการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ในส่วนของการบูชาพระแม่คงคา และในส่วนของการประชาสัมพันธ์ผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อ มีคุณค่าและมีคุณภาพจากแหล่งผลิต ทัดเทียมเท่าผ้าไหมแพรวาในพื้นที่อื่นๆ ของ จ.กาฬสินธุ์
ที่รายได้จากการจำหน่าย จะเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ผลิต เพิ่มรายได้เข้ามาสู่ชุมชนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นการยกระดับการจัดงานจากท้องถิ่นสู่สากล สอดคล้องกับนโยบายซอฟพาวเวอร์ของรัฐบาลอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับการจัดงานประเพณี ตามฮีต 12 คอง 14 และการพัฒนาด้านอื่นๆ ในทุกท้องที่ อบจ.กาฬสินธุ์ มีแนวทางที่จะให้การต่อยอด หนุนเสริมให้เด่น ดี กว่าเดิม เพื่อเติมเต็มความสุข กระตุ้นเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดงานลอยกระทงผ้าไหมผู้ไทหนองข้าง เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง และฟ้อนรำผู้ไทแล้ว นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ และนายพงศ์ภรณ์ ภาระขันธ์ นายก อบต.หนองช้าง ได้นำผู้ร่วมงานลอยกระทงที่หนองแก่นทราย บริเวณด้านหน้าที่ทำการ อบต.หนองช้าง เพื่อบูชาพระแม่คงคา พร้อมอธิษฐานขอความสุข ความปลอดภัย ปล่อยสิ่งที่ไม่ดีไม่งามล่องลอยหายไปกับสายน้ำ และพื้นที่ไม่ประสบภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ จากนั้นร่วมเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง บรรยากาศเป็นไปด้วยสีสันและความคึกคัก ทั้งนี้ คาดมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไหมผู้ไทหนองช้าง 3 วัน ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท