ขอนแก่น-“ครูอนุบาลขอนแก่น” น้อมรับความคิดเห็น ผปค.ปม!ใบงานแฝงประกัน
ขอนแก่น-“ครูอนุบาลขอนแก่น” น้อมรับความคิดเห็น ผปค.ปม!ใบงานแฝงประกัน
โรงเรียนน้อมรับคำแนะ คำปรึกษา จากผู้ปกครองที่แสดงความคิดเห็นในทางที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมไม่มีการโต้แย้งกับผู้ปกครองแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่ได้รับโรงเรียนรับได้และพร้อมปรับปรุงในแนวทางพัฒนาภายในระเบียบกฎหมายที่กำหนดครูหลายคนเขามีครอบครัวหลากหลายสาขาอาชีพบางคนครอบครัวเขาก็ได้รับผลกระทบไปด้วยและเขาก็พร้อมที่จะรักษาเกียรติของเขาเหมือนกัน อยากให้เป็นไปตามกระบวนการของโรงเรียนคือมีความมุ่งมั่นตั้งใจอบรมสั่งสอนลูกๆตามหน้าที่ ให้ดีที่สุด เพราะในเรื่องดังกล่าวนี้ นักเรียนคณะครูและนักเรียน ก็ได้รับผลกระทบไปทั่วหน้า
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวประจำ จังหวัดขอนแก่นรายงาน ว่า จากกรณี ปมดราม่า ที่
ผู้ปกครองของเด็กโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีมีการบ้านลูกให้ระบายสีอาชีพในฝัน พร้อมให้กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ปกครองกระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์มีบริษัทประกันโทรฯ มาบอกได้เบอร์ตามในใบงาน จึงตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและความปลอดภัย ซึ่งต่อมาทางโรงเรียนได้มีการชี้แจงและพูดคุยกับทางผู้ปกครอง ยืนยันทางโรงเรียนไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับใบงานดังกล่าว โดยเกิดจากการที่มีพนักงานบริษัทแต่งตัวดีไปหาหัวหน้าสายชั้นเรียน พร้อมกับแนะนำตัวเองว่ามาจากธนาคาร มีกิจกรรมให้ระบายสีอาชีพในฝัน เพื่อรับกระปุกออมสินจากทางธนาคาร โดยทางโรงเรียนเห็นถึงการที่เด็กนักเรียนจะได้ฝึกทักษะการระบายสีแล้ว ยังได้รับกระปุกออมสินจากทางธนาคารที่จะสามารถส่งเสริมในเรื่องของการออมได้ด้วย จึงได้มีการแจกให้กับนักเรียนได้ระบายสีและนำกลับไปที่บ้าน กระทั่งเกิดเป็นประเด็นดังกล่าว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับ ประเด็นดังกล่าว โดย นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โรงเรียนได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงและทราบว่าเป็นการเข้ามาของพนักงานซึ่งอ้างตัวว่ามาจากธนาคารและมีข้อมูลที่แม่นยำในเรื่องของชื่อหัวหน้าสายชั้นเรียน โดยทำทีว่าตัวเองได้รับอนุญาตจากทางผู้บริหารโรงเรียนแล้ว ทำให้หัวหน้าสายหลงเชื่อเพราะมองในเรื่องของประโยชน์ที่นักเรียนจะได้เป็นหลัก ทั้งเรื่องของการฝึกระบายสี ได้ฝึกคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจในเรื่องอาชีพในฝัน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเรื่องการออมเงินด้วย
นายประจวบ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีทางบริษัทธนาคารหลายแห่งโทรฯ มาขอข้อมูลว่ากระปุกออมสินเป็นแบบไหน และทำการตรวจสอบก่อนที่ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ส่งหนังสือชี้แจงมาในไลน์ส่วนตัวของผม โดยข้อความในหนังสือชี้แจงระบุว่า “จากกรณีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เรื่องการกระทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัวจากการบ้านระบายสีของเด็ก รร.อนุบาลในจังหวัดขอนแก่นเพื่อการขายประกัน บมจ. XXX ประกันชีวิต ในฐานะบริษัทประกันชีวิตขอร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้ หลังจากบริษัทฯ ได้ทราบเรื่องดังกล่าว ในฐานะหนึ่งในบริษัทประกันชีวิต ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทันทีและพบว่าบุคคลที่กระทำการดังกล่าวเป็นตัวแทนที่มีสัญญากับบริษัท ขณะนี้บริษัทฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด หากพบว่าตัวแทนของบริษัทมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและดำเนินงานขายที่ขัดต่อหลักการทางจริยธรรมและข้อกำหนดของบริษัทฯ บริษัทฯ จะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป บริษัทฯ ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าบริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการได้มาซึ่งข้อมูลของผู้มุ่งหวังด้วยการใช้วิธีการเช่นนี้” ซึ่งหนังสือชี้แจงจากบริษัทประกันดังกล่าวจะส่งมาที่โรงเรียนอีกครั้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษร” ผอ.รร.อนุบาลขอนแก่น กล่าว
นายประจวบ ชี้แจงท้ายสุดว่า โรงเรียนมีมาตรการคัดกรองบุคคลภายนอกแน่นหนา จะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในโรงเรียนหากไม่ใช่ผู้ปกครองและมีเรื่องด่วนจริงซึ่งจะต้องมีการสื่อสารผ่านครูประจำชั้นอยู่แล้ว อีกทั้งจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.และกล้องวงจรปิด ตรวจสอบที่บริเวณหน้าโรงเรียนอีกชั้นด้วย แต่ในวันดังกล่าวนั้นทางพนักงานซึ่งแต่งตัวดีอ้างว่ามาจากธนาคารเดินตรงไปหาหัวหน้าสายชั้นเรียน ป.1 เรียกชื่อก็ถูกต้อง และใช้วาจาคำพูดที่ทำให้หัวหน้าสายหลงเชื่อว่าได้รับอนุญาตจากผู้บริหารแล้ว ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดียวเท่านั้น
ทางด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ประเด็น ใบงานแฝงประกัน ว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการได้รับทราบแล้ว จากเรื่องดังกล่าวทำให้คณะครูเสียขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมาก แต่ต้องขอตรวจสอบข้อมูลความเป็นจริงสักหน่อย เพราะถ้าผิดก็พูดไปตามผิดแต่ถ้าไม่ผิดต้องให้โอกาสทางโรงเรียนด้วย ผมจะไม่ปิดกั้นอาชีพของใครของมัน เพราะเกิดจากคำพูดของผู้ปกครองแค่บุคคลเดียวและทางโรงเรียนก็ได้ชี้แจงมาแล้ว แต่ทางกระทรวงต้องไปหาข้อมูลที่เป็นจริงก่อน ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ถ้าไม่ผิดต้องให้โอกาสทางโรงเรียนด้วย
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปมดราม่าใบงานแฝงประกัน ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ตลอดจนศิษย์เก่า ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น กันอย่างหลากหลายว่า น่าจะสืบคนโพสต์ด้วย เพราะคนคนเดียว ที่ไปโพสต์ แสดงความรู้สึกลงในสื่อโซเชียล ทำให้เกิดผลกระทบ ต่อบุคลากรครู และเด็กของโรงเรียนอนุบาลขอนแก่นเสียขวัญและกำลังใจ
ทำให้เด็กขาดโอกาสจากการเรียนรู้เพราะครูต้องมาตอบคำถามต่อกรณีที่เกิดขึ้นแบบนี้ ครูเขามีเกียรติมีศักดิ์ศรีเป็นพ่อแม่คนที่สองของลูกเรา ในเมื่อเราต้องการพัฒนาลูกเราคนเดียวกันทำไมไม่คุยกันทางไลน์ของผู้ปกครอง ในกลุ่มไลน์ห้องนักเรียน ซึ่งไม่มีวันหยุดสามารถสื่อสารถึงกันเพื่อลูกเราได้ตลอดเวลาลูกๆอยู่โรงเรียน 5 วันอยู่ที่บ้าน 2 วันมีจิตวิญญาณของความเป็นครูมันมีอยู่ในตัวเองไม่มีครูคนไหนคิดจะหากินกับลูกๆแบบนี้ทุกอาชีพมีเกียรติมีศักดิ์ศรี แต่วันนี้เขาไม่สามารถอธิบายได้เพราะถูกมองว่าเป็นการแก้ตัว โดยตั้งคำถามว่า 1.ลูกๆนักเรียนได้อะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น
2.ผู้ปกครองมีภูมิคุ้มกันในตัวเองอยู่แล้วสามารถแยกแยะวิเคราะห์ได้ 3.ถ้ามีข้อสงสัยไลน์กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนมีอยู่แล้วเป็นการสื่อสารเพื่อลูกเรา
4.การบ้านของโรงเรียนที่ครูให้ถ้าผู้ปกครองสังเกตจะมีชื่อครูประจำชั้นติดอยู่ในสมุดเรียน พร้อมเบอร์โทรขึ้นอยู่กับครูแต่ละชั้นเรียนอยู่แล้ว
5.มีอะไรสงสัยหรือจะให้ข้อเสนอแนะครูประจำชั้นหรือฝ่ายบริหารรับฟังผู้ปกครองเสมอ 6.ผู้ปกครองเห็นกระบวนการทำงานของ ผอ.และคณะครูมาโดยตลอด.