ททท.ภาคเหนือ เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี หวังรายได้แตะ 186,000 ล้านบาท
ททท.ภาคเหนือ เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี หวังรายได้แตะ 186,000 ล้านบาท
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ หนองนารี อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2567 เพื่อสื่อสารแนวทางการดำเนินงานของภูมิภาคภาคเหนือ ในปี 2567 ถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่ภาคเหนือ รวมถึงการนำเสนอภาพลักษณ์และสินค้าทางการท่องเที่ยวของamazing THAILANDภาคเหนือ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภาคเหนือในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมืออันดีระหว่าง ททท. กับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ภาคเหนือ
บรรยากาศภายในงานมีการแสดงดนตรีโฟลค์ซอง การจัดบูธส่งเสริมการขายของ ททท. สำนักงานภูมิภาคภาคเหนือ 11 สำนักงาน บูธกิจกรรมสาธิต และบูธสินค้าเด่นของจังหวัดเพชรบูรณ์ อาหารเครื่องดื่ม มากกว่า 30 บูธ โดยมีผู้ประกอบการจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธานี และสื่อมวลชนร่วมเดินเยี่ยมชมในแต่ละบูธ นอกจากนี้มีการเสวนาการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูมิภาคภาคเหนือ ปี 2567 โดยนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีศักยภาพในหลากหลายมิติทั้งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยวทางการเกษตรอีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่กระจายตัวทั่วทั้งจังหวัดตั้งแต่เหนือจรดใต้ ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ภายใต้การนำของท่านผู้ว่ากฤษณ์ คงเมืองได้มีการวางแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ท้องถิ่น และเอกชนเข้ามาทำงานบูรณาการร่วมกันเพื่อเกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
นอกจากนี้จังหวัดเพชรบูรณ์ยังขอนำเสนอแคมเปญ “เที่ยวเพชรบูรณ์ต้อง 678” ที่แนะนำจังหวัดเพชรบูรณ์ในหลากหลายแง่มุม ผ่าน 6 ของที่ระลึกต้องซื้อ 7 เมนูอาหารต้องชิม และ 8 แหล่งท่องเที่ยวต้องไป เพื่อสร้างการรับรู้ในฐานะเมืองที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์ยังมีนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะด้านรายได้จากการท่องเที่ยวและมูลค่าจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน และของฝากของที่ระลึก ตลอดจนพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้การนำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีทักษะและองค์ความรู้ในธุรกิจการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการตลาดด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น และการให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อีกทั้ง สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ซึ่งได้รับการบรรจุขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก่อให้เกิดกระแสการเดินทางมาเที่ยวชมมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในอนาคตจังหวัดเพชรบูรณ์มีแผนโครงการที่จะผลักดันให้มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรมทับซ้อนกันถึง 3 อารยธรรม อายุเก่าแก่ราวเกือบ 2,000 ปี ด้วย
ด้าน นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. เปิดเผยว่า ททท. เตรียมดำเนินการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภูมิภาคภาคเหนือ โดยบูรณาการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ในพื้นที่ 17 จังหวัด ร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia) และความร่วมสมัย (Modern Lanna) ผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ภายใต้ 3 ทิศทางหลัก ได้แก่
1. Amazing Northern Lifestyle ขยายฐานตลาดและเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคุณภาพ ผ่านเทรนด์ของการดื่มชา กาแฟ และโกโก้ กิจกรรม Retreat ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายอย่างแท้จริง รวมถึงเสน่ห์ของงาน Modern Art & Craft ที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ผสมผสานเข้ากับความทันสมัย
2. Amazing Northern Festival กระตุ้นความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อขยายฤดูกาลท่องเที่ยว ผ่านความเชื่อ ความศรัทธา และสายมู
และ 3. Amazing Northern Mueang Rong กระตุ้นการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่เมืองรอง ด้วยการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ (Story Telling) ผสมผสานอัตลักษณ์ของวัฒนธรรม เมืองเก่า-ย่านเก่า วิถีชีวิต อาหารถิ่น สินค้า GI และกิจกรรมท่องเที่ยวที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคม
นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวเพื่มว่า ภูมิภาคภาคเหนือนั้นมีความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล รวมทั้งตลอดปีนี้ ททท. ยังได้เตรียมนำเสนอกิจกรรมและงานเทศกาลประเพณีเพื่อเติมความน่าสนใจน่าการเดินทางเยือนภาคเหนือแต่ละฤดูอีกมากมาย ได้แก่
กิจกรรมฤดูหนาว เช่น เทศกาลลอยกระทงเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน จังหวัดลำปาง, ลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก, ลอยกระทงจุดผางประทีปตีนก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก จังหวัดแพร่ กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จังหวัดเชียงราย, Balloon Festival Huppatat 2023 จังหวัดอุทัยธานี, งานเทศกาลหุ่นโคมไฟนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงกิจกรรมเคาน์ดาวน์ปีใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
กิจกรรมฤดูฝน เช่น Pai Jazz and Blues Fest 2024 จังหวัดแม่ฮ่องสอน, ลำปางย้อนรอยลำปางพาแม่นั่งรถม้าแอ่วเวียงละกอน จังหวัดลำปาง, ประเพณีสลากภัตรหรือสลากย้อม จังหวัดลำพูน, ดอยช้างเทรล จังหวัดเชียงราย, กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก, กิจกรรมเวียนเทียนตะคัน เมืองโบราณสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย, มหกรรมอาหารพื้นบ้าน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร, งานประเพณีแข่งขันเรือยาว จังหวัดพิจิตร
และกิจกรรมฤดูร้อน เช่น Chiang Mai Crafts Week 2024 จังหวัดเชียงใหม่, Amazing Chiang Mai Pride 2024 จังหวัดเชียงใหม่, งานประเพณีเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา, งานประเพณีหกเป็งไหว้สาพระมหาธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน, งานมหกรรมทุเรียนหลง – หลิน ลับแล ของดีของเด่นจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์, เทศกาลพายเรือเที่ยวป่า ตามหาแมงกะพรุนน้ำจืด จังหวัดเพชรบูรณ์, เทศกาลวันวานอุทัยธานี จังหวัดอุทยธานี นอกจากนี้ ตลอดปี 2567 ภูมิภาคภาคเหนือยังภูมิใจนำเสนอกิจกรรม 356 day coffee ที่จะชวนทุกคนไปดื่มด่ำกับกาแฟซิกเนเจอร์ของภาคเหนืออีกด้วยโดย ททท. คาดหวังว่ากิจกรรมส่งเสริมการเดินทางที่จัดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ จะช่วยผลักดันให้มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน-ครั้ง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปีที่ผ่านมา) และเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 186,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากปีที่ผ่านมา)