สืบนครบาล รวบบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ 3 หมายจับหลอกผู้เสียหายว่าเกี่ยวข้องยาเสพติดอ้าง สภ.ชลบุรี ให้โอนเงินตรวจสอบ
สืบนครบาล รวบบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์ 3 หมายจับหลอกผู้เสียหายว่าเกี่ยวข้องยาเสพติดอ้าง สภ.ชลบุรี ให้โอนเงินตรวจสอบ
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการนี้อ้าง สภ.ชลบุรี หลอกผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยใช้บัญชีม้าชื่อ นางสมพิศ ศรีแสง มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 แสนบาท อ้างเปิดบัญชีให้รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ได้ค่าจ้างบัญชีละ 400-500 บาท
.
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2566. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒพงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.4ฯ, พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 2,4 ได้ร่วมกันจับกุมตัว
นางสมพิศ หรือเอ๋ อายุ 45 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.6 ต.ไม้งาม อ.เมืองตาก จ.ตากตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.130/2565 ลงวันที่ 25 ก.พ. 2565
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมได้ที่บริเวณหอพักไม่ทราบเลขที่ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
.
จากการตรวจสอบพบหมายจับเพิ่มอีก 3 หมาย ได้แก่
1. ศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 113/2565 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
2. ศาลาอาญา ที่ 1908/2565 ลงวันที่ 9 กันยายน 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
3. ศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.590/2565 ลงวันที่ 9 กันยายน 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริต ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พฤติการณ์ในคดี ก่อนวันเวลาเกิดเหตุได้มีโทรศัพท์เป็นผู้หญิงโทรเข้ามาที่ผู้เสียหาย แต่จำไม่ได้ว่าหมายเลขใด บุคคลดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหายแอดไลน์ของบุคคลดังกล่าว ได้ปรากฎไลน์”สภ.ชลบุรี” ขึ้นมา ในไลน์ดังกล่าวมีรูปตราโล่ห์ตำรวจปรากฎอยู่ด้วย จึงเชื่อว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจจริง ได้มีการโทรศัพท์ทางไลน์เป็นหญิงคนเดียวกับเสียงในโทรศัพท์แจ้งมาว่าผู้เสียหายเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหญ่ ให้โอนเงินไปที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ ที่มีชื่อ น.ส.สมพิศ เป็นเจ้าของบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบว่าหลังจากที่ผู้เสียหายโอนไปหมดบัญชีแล้ว ยังมีเงินโอนเข้ามาในบัญชีอีกหรือไม่ ถ้ามีเงินโอนเข้ามาถือว่าเป็นเงินยาเสพติด ถ้าหากทางเจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ได้จะโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย และหลงเชื่อ จึงได้ทำการโอนเงินครั้งแรก จากบัญชีธนาคารกสิกรไทย ที่มีชื่อ น.ส.สมพิศ เป็นเจ้าของบัญชี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2564 จำนวน 100,000 บาท ที่หน้าเค้าเตอร์ธนาคารดังกล่าว และไปโอนจากบัญชีธนาคารทหารไทยของผู้เสียหายไปที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ ที่มีชื่อ น.ส.สมพิศ เป็นเจ้าของบัญชี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2564 จำนวน 60,000 บาท ที่ภายในธนาคารทหารไทย เมื่อผู้เสียหายได้ปรึกษาเจ้านายจึงได้รู้ว่าถูกมิจฉาชีพดังกล่าวหลอกให้โอนเงิน ได้รับความเสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์
.
สอบถามผู้ต้องหาให้การว่ามีแท็กซี่มาติดต่อว่าจ้างให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคารให้ โดยได้เปิดบัญชีให้แท็กซี่อย่างเดียว ได้ค่าจ้างบัญชีละ 400-500 บาท หลังจากนั้นได้ให้สมุดบัญชี กับ บัตร atm ดังกล่าวไป หลังจากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน
สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป