กาฬสินธุ์ฮือฮาบุญมหากฐินสมทบทุนซ่อมแซมเมรุเผาศพวัดดังครั้งแรก
สายบุญทั่วภาคอีสาน ร่วมบริจาคปัจจัย ไทยทาน จัดต้นดอกเงิน แห่กองบุญมหากฐิน วันเริ่มต้นเทศกาลบุญกฐินหลังออกพรรษา ถวายวัดประชานิยม สุดฮือฮาเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เจ้าภาพปวารณาทำบุญ เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมเมรุเผาศพหลังเก่า เชื่อในอานิสงส์อยู่ดีกินดี มีสุข ไร้ทุกข์โพยภัย โชคดีมีชัยตลอดชีวิต
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่ลานธรรมพระเจดีย์ศรีมิ่งเมืองกาฬสินธุ์ วัดประชานิยม ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีพุทธศาสนิกชน ญาติธรรม ศิษยานุศิษย์ชาววัดประชานิยม ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในงานทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2566 เพื่อสมทบเป็นทุนทรัพย์ในการ ก่อสร้างวิหารคตด้านทิศใต้ของพระเจดีย์ศรีมิ่งเมืองกาฬสินธุ์เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ ในงานนี้คลาคล่ำไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว ที่หลั่งไหลเข้ามาทำบุญมหากฐินเป็นจำนวนมาก เนื่องจากถือเป็นบุญมหากฐินครั้งแรก ที่จัดขึ้นหลังวันออกพรรษา และวัดประชานิยมถือเป็นวัดประจำจังหวัด (ธ) โดยมีพระเทพสารเมธี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 (ธ) เป็นเจ้าอาวาสวัด โดยมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 กาฬสินธุ์ เข้าร่วมขบวนแห่องค์มหากฐินกับพี่น้องชาวเมืองน้ำดำรอบพระเจดีย์ศรีมิ่งเมืองกาฬสินธุ์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักอิ่มบุญอิ่มใจ
โดยในการจัดงานบุญมหากฐินครั้งนี้ มีเจ้าภาพหลักคือ “ครอบครัวเล็กสมบูรณ์” โดยได้ปวารณาว่าจัดกกองบุญมหากฐินเพื่อสมทบทุนซ่อมแซมเมรุเผาศพหลังเก่า ทั้งนี้ ยังมีสายบุญจากทั่วสารทิศ และศิษยานุศิษย์พระเทพสารเมธีใกล้ไกล เดินทางมาร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยร่วมบริจาคปัจจัยไทยทาน จัดต้นดอกเงินสวยงาม ร่วมในริ้วขบวนแห่และนำถวายวัด ท่ามกลางบรรยากาศที่อวลไปด้วยความอบอุ่นและอิ่มบุญไปตามๆกัน
นายสุริยา เล็กสมบูรณ์ เจ้าภาพบุญมหากฐินกล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดรุนแรงในปี 2563-65 ที่นอกจากจะทำให้ผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากแล้ว ยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าหดหู่ใจมาก ในส่วนการฌาปนกิจศพหรือการเผาศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้น บางวัดเมรุเผาศพไม่เพียงพอ ต้องรอคิว ทำให้ญาติเสียเวลารอคอย และเสียโอกาสทำมาหาเลี้ยงชีพ จึงเป็นแรงบันดาลใจตนและครอบครัวว่า ถ้ามีโอกาสทำบุญใหญ่สักครั้งหนึ่ง จะรวบรวมปัจจัยถวายวัดเพื่อซ่อมแซมเมรุเผาศพหลังเก่า ตั้งเป้าที่วัดประชานิยม (ธ) ซึ่งเป็นวัดประจำจังหวัด และมีเจ้าภาพจัดงานฌาปนกิจบ่อยครั้งมาก เพื่อให้เพียงพอต่อการบำเพ็ญกุศล จึงได้ปวารณาตนเป็นเจ้าภาพจัดบุญมหากฐิน สมทบทุนซ่อมแซมเมรุหลังเก่าในครั้งนี้
ทั้งนี้ การบริจาคทำบุญในโอกาสต่างๆ จะนำปัจจัยไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของเจ้าภาพหรือผู้บริจาค เช่น สมทบทุนก่อสร้างศาลาการเปรียญ หอฉัน หอระฆัง กำแพงวัด บำรุงศาสนสถานอื่นๆ แต่ในส่วนของการบริจาคเพื่อซ่อมแซมเมรุเผาศพ ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ หลังทราบข่าวว่าที่วัดประชานิยม มีการจัดงานบุญมหากฐินในครั้งนี้ จึงได้บอกบุญและชักชวนญาติพี่น้อง มาร่วมทำบุญ เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมเมรุหลังเก่ากับทางเจ้าภาพด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบันวัดประชานิยม มีเมรุเผาศพ 2 แห่ง แห่งแรกหรือเมรุหลังเก่าชำรุด เพราะสร้างมานานหลายปี ขณะที่เมรุเผาศพแห่งใหม่อยู่ติดกับศาลาฌาปนกิจศพ หากมีเจ้าภาพซ่อมแซมปรับปรุงเมรุหลังเก่าขึ้นใหม่ ให้สามารถใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับทางวัดและญาติผู้เสียชีวิตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในหลักคำสอนทางพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอานิสงส์ของการสร้างเมรุเผาศพ หรือร่วมบริจาคซ่อมแซมเมรุเผาศพ เชื่อว่าจะเป็นคนกินดีอยู่ดี มั่งมีศรีสุข หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า มีบริวารดี เพียบพร้อมไปด้วยโภคาทรัพย์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ประสบโชคดีตลอดชีวิต การสร้างเมรุเผาศพจึงถือว่าได้บุญใหญ่ เพราะในการสร้างเมรุนั้นถือได้ว่าเป็นการสร้างทานที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นการทำบุญถวาย หรือได้ร่วมสร้างเสนาสนะถวายให้กับวัด เพื่อเป็นสมบัติทางพุทธศาสนา เปรียบได้เป็นการสร้างวิหารทานต่างๆ ภายในวัด เช่น การสร้างโบสถ์ การสร้างศาลา การสร้างกุฏิถวายพระ การสร้างห้องน้ำถวายวัด เป็นต้น
ดังนั้น หากผู้ใดที่ได้ทำบุญหรือร่วมสร้างพระเมรุ ซึ่งจะเป็นการสร้างสาธารณะประโยชน์ให้กับชุมชนและส่วนรวม อานิสงส์ที่ได้จะแรงกล้า ส่งผลดีกลับมาหาเราในเรื่องต่างๆ เช่น จะทำให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือแม้หากเจ็บป่วยอยู่ก็จะทำให้หายวันหายคืน ทุเลาเบาบางลงได้ ทำให้มีอายุยืน มีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นเคล็ดช่วยต่อดวงชะตา ทำให้วิบากกรรมเบาบางลง มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และมีความเจริญในทรัพย์สินไม่มีขาดมือ แม้ผู้ร่วมสร้างจะทำทานเพียงเล็กน้อย ผลอานิสงส์ก็สามารถส่งผลดีได้เช่นกัน ชาวพุทธศาสนิกชนจึงมีความเชื่อว่า การสร้างเมรุเผาศพ ถือได้ว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าว