กาฬสินธุ์ขับเคลื่อนพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯปลูกพืชปลูกผักปลูกรักในจวนผู้ว่าฯ
จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปฏิบัติเพื่อให้ผู้นำเป็นต้นแบบตัวอย่าง ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรักในจวนผู้ว่าฯ
วันที่ 26 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายสำเริง ม่วงสังข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนภัทร ณ ระนอง ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสันติภาพ โทนหงส์สา เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ คณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ และเครือข่ายโคก หนอง นา พัฒนาชุมชนทั้ง 18 อำเภอ ร่วมกันน้อมนำแนวทางพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปฏิบัติในการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ในโครงการปลูกพืชปลูกผักปลูกรักในจวนผู้ว่าฯ
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการ ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมการปลูกผักรอบที่ 2 เพื่อความต่อเนื่องให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับมอบหมายจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันการเกษตร สร้างมูลค่าเพิ่มในด้านการผลิต ทั้งเชิงปริมาณและความหลากหลายของสินค้าการเกษตร ส่งเสริมความปลอดภัย การประยุกต์การเกษตรแปรรูปเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ในเศรษฐกิจฐานราก ในเรื่องของการผลิต การตลาดและการจำหน่าย
ทั้งนี้ มีกิจกรรมให้ผู้นำเป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่างที่เห็นจริง พร้อมด้วยการรณรงค์ให้ส่วนราชการ บุคลากรของรัฐปลูกผักสวนครัว พืชผักสมุนไพรอย่างน้อย 10 ชนิด เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน จังหวัดกาฬสินธุ์ มี 135 ตำบล 1,634 หมู่บ้าน 234,142 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการขับเคลื่อนต่อยอดการดำเนินการน้อมนำแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้าง ความมั่นคงทางอาหาร ขยายผลต่อเนื่อง ปลูกผักสวนครัว 30 ชนิด จำนวน 159,089 ครัวเรือน คิดเป็น 67.95 %
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เป็นการสนองพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้โครงการ บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง ซอยนี้มีรักปลูกรักแบ่งปัน ทั้งนี้ มีผลให้ผู้คนรักกัน โดยพระองค์ต้องการให้ประชาชนสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร แต่ละบ้านมีการปลูกผักสวนครัวในรั้วกินได้ จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้พบปัญหาและอุปสรรคของการดำรงชีวิต เนื่องจากการค้าการขายได้หยุดชะงักลง แต่ผู้ที่ทำการปลูกผักสามารถดำรงชีวิตท่ามกลางวิกฤตที่ผ่านมาได้ ซึ่งมีผลเป็นที่ประจักษ์
นายสนั่นกล่าวอีกว่า ในส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น เพื่อให้เป็นต้นแบบสำหรับส่วนราชการและประชาชนโดยการนำพื้นที่ในจวนผู้ว่าฯ หรือพื้นที่ว่างในพื้นที่ราชการนำมาปรับให้เป็นพื้นที่แปลงเกษตรสาธิตปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อเป็นการรณรงค์และทำให้ประชาชนได้เห็นถึงสิ่งที่ส่วนราชการมีความตั้งใจให้เป็นรูปธรรม และที่สำคัญกระทรวงมหาดไทย และกรมพัฒนาชุมชนมีความคาดหวังที่อยากจะเห็นพื้นที่ว่างของราษฎร และพื้นที่ว่างของส่วนราชการ ให้มีการปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้กินเอง มีผลทำให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงในการบริโภคอาหารปลอดภัย ในเรื่องของการประหยัด ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับครัวเรือนและในการแบ่งปันให้กับสังคม ทำให้เกิดความรักความสามัคคี โดยใช้จวนผู้ว่าฯเป็นสถานที่ต้นแบบในการสนองพระราชดำริ