26/12/2024

“สืบนครบาล จับกุม หมวยโพธิ์แท่น เปิดบัญชีหลอกขายอะไหล่โน็ตบุ๊ก หนังสือนิยายหายาก มูลค่าความเสียหายไม่มาก แต่ผู้เสียหายจำนวนมาก

087F49E8-D8F6-47B0-9569-DE547CBD40EA

“สืบนครบาล จับกุม หมวยโพธิ์แท่น เปิดบัญชีหลอกขายอะไหล่โน็ตบุ๊ก หนังสือนิยายหายาก มูลค่าความเสียหายไม่มาก แต่ผู้เสียหายจำนวนมาก อ้างสามีให้เปิด 15 บัญชีเพื่อใช้หลอก”

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท รอง ผบ.ตร. (สส) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่าน เพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว หมวย โพธิ์แท่น ซึ่งมีพฤติการณ์ แฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟสบุ๊คขายสินค้าประเภทหนังสือหายากต่างๆ หนังสือนิยาย หนังสือเรียน หนังสือกฎหมาย หนังสือทางการแพทย์ หนังสือติว บอร์ดโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ อะไหล่โทรทัศน์ โดยเมื่อมีผู้เสียหายโพสต์ต้องการอยากได้หนังสือหายาก นิยาย หนังสือเรียน อะไหล่คอมพิวเตอร์ต่างๆ คนร้ายจะทำทีทักข้อความผ่านโปรแกรม Facebook Messenger อินบล็อกไปหาผู้เสียหาย หลอกตกลงราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานตามท้องตลาด เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน ก็จะทำนิ่งเฉย ไม่ส่งสินค้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายหลายรายตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายหลายหมื่นบาท

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ผู้การจ๋อเมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม

น.ส.มะลิวัลย์  อายุ 29 ปี ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 138 หมู่ 1 ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองค์รักษ์ จังหวัดนครนายก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ”

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเฝ้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณหมู่ 2 ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี
จากการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า ปัจจุบัน น.ส.มะลิวัลย์  ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 1 หมายจับ ตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ”

ในชั้นจับกุม หมวย โพธิ์แท่น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า สามีของตนชื่อนายจักรกฤษ หรือเล็ก เป็นผู้ขอยืม/นำบัญชีธนาคารของตนไปใช้ และยังใช้ให้ตนเปิดบัญชีธนาคารผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารต่างๆ รวมกว่า 15 บัญชีด้วยโดยบัญชีธนาคารที่เปิดนายจักรกฤษ หรือเล็ก นำไปใช้เป็นบัญชีรองรับเงินที่ได้จากการหลอกขายสินค้าประเภทหนังสือหายากต่างๆ หนังสือนิยาย หนังสือเรียน หนังสือกฎหมาย หนังสือทางการแพทย์ หนังสือติว บอร์ดโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ อะไหล่โทรทัศน์ ที่มีผู้เสียหายโพสต์ว่าต้องการอยากได้อยากซื้อในกลุ่มเฟสบุ๊คที่นายจักรกฤษ หรือเล็ก เข้าไปแอบแฝงกว่า 200 กลุ่ม
จากการซักถามปากคำขอเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าปัจจุบัน น.ส.มะลิวัลย์ หมวย โพธิ์แท่น ยังอยู่กินกับนายจักรกฤษ หรือเล็ก จึงได้ให้ น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น ติดต่อนายจักรกฤษ หรือเล็ก เพื่อทราบว่าตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และให้เข้ามาพบเพื่อซักถามปากคำ ซึ่งนายจักรกฤษ หรือเล็ก ก็ได้เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมด้วยความสมัครใจ โดยรู้สำนักในความผิดที่ได้กระทำเนื่องจากเกรงแฟนจะต้องมารับโทษในความผิดที่ตนได้ก่อไว้
จากการซักถามปากคำนายจักรกฤษ หรือเล็ก ให้การรับสารภาพว่าตนเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ ในการแฝงตัวเข้าไปหลอกผู้เสียหายในกลุ่มต่างๆ กว่า 200 กลุ่ม จำนวน 12 บัญชี ประกอบด้วย (1) ชื่อบัญชี “ ช่างนนท์ ณัฐวุฒิ ” (2) ชื่อบัญชี “ ช่างเอ็ม อิเล็กทรอนิกส์ ” (3) ชื่อบัญชี “ ช่างนนท์ อิเล็กทรอนิกส์ ” (4) ชื่อบัญชี “ อิเล็กทรอนิกส์ ช่างนนท์ ” (5) ชื่อบัญชี “ คือการเรียนรู้เพราะชีวิต ” (6) ชื่อบัญชี “ เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ ” (7) ชื่อบัญชี “ สอง อิเลกทรอนิกส์ ” (8) ชื่อบัญชี “ ช่างหนึ่ง ครับ ” (9) ชื่อบัญชี “ Rosarin To ” (10) ชื่อบัญชี “ เจ้าสัว บ้านนอก ”(11) ชื่อบัญชี “ Siw Siwkew ” (12) ชื่อบัญชี “ ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด ”
เงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายนำไปใช้จ่ายใจครอบครัว
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมาพบว่า น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น มีประวัติถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2560 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) ” ท้องที่ สภ.วิหารแดง
2) ปี 2566 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สภ.สามร้อยยอด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พร้อมทั้งได้เชิญตัวนายจักรกฤษ หรือเล็ก เพื่อซักถามปากคำรับสารภาพด้วยความสมัครใจ และเชิญตัวไปพบพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทางคดี ในคราวเดียวกันต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ผู้การจ๋อ กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป