ฟ้าผ่า ทำเพลิงไหม้บ่อขยะ ทม.หนองปรือ ลั่น บ่อเอกชนไร้ขั้นตอนฝังกลบ สั่งปิดแล้ว เตรียมเรียกเจ้าของชี้แจง

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ศูนย์วิทยุหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ่อทิ้งขยะ ภายในซอยทุ่งกลม ตาลหมัน 29 ม.13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองหนองปรือ เทศบาลโป่ง เทศบาลห้วยใหญ่ รีบนำกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุมี นายวันชัย แสนงาม รองนายกเทศมนตรี เมืองหนองปรือ นายเบิกชัย นิลปานันท์ ผู้อำนวยการกองช่างสุขาภิบาล และเจ้าหน้าที่เทศบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบพบเป็นบ่อทิ้งขยะขนาดใหญ่บนเนื้อที่ประมาณ 5-10 ไร่ ใกล้เคียงกับบ่อขยะของเทศบาลหนองปรือ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้ขยะอย่างรุนแรง มีกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มองเห็นได้จากระยะไกล และกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้เวลาหายใจเข้าไปจะมีอาการแสบจมูก แสบคอ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ใช้รถนำ 5 คัน ระดมฉีดน้ำเข้าสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ ต้องใช้รถแบคโฮขุดคุ้ยกองขยะแล้วใช้น้ำฉีดเลี้ยง ผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมง เพลิงก็ยังไม่มีทีท่าจะดับสนิด เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดเท่านั่น

สอบถามนาง ลี สุขประเสริฐ อายุ 43 ปี ทราบว่าก่อนเกิดไฟไหม้นั้น เป็นช่วงที่มีฝนตก เกิดฟ้าผ่าลงดังสนั่นหวั่นไหว แล้วมีควันโชยขึ้นจากกองขยะในจุดที่ฟ้าผ่าลง ซึ่งในขณะนั้นมีคนเก็บของเก่าที่กำลังค้นหาของไปขายอยู่ใกล้บ่อขยะนั้น ตกใจฟ้าที่ผ่าลงมาจึงรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาจากบ่อขยะที่เกิดไฟไหม้ โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ด้านนายวันชัย แสนงาม รองนายกเทศมนตรี เมืองหนองปรือ กล่าวว่า บ่อขยะแห่งนี้ก่อนหน้านี้เคยเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต เทศบาลหนองปรือ ได้ทำการสั่งปิดไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนลักลอบมาทิ้งขยะรวมกับขยะเก่า เมื่อช่วงประมาณ 05.00 น.เกิดฟ้าผ่าลงมาจนเกิดไฟไหม้ ทางเทศบาลมีหน้าที่เข้ามาระงับเหตุ โดยขอสนับสนุนรถน้ำจากเทศบาลข้างเคียง แล้วใช้แบคโฮขุดขยะ เพื่อจำกัดไม่ให้ลุกลามออกไปเป็นวงกว้าง ในส่วนของเจ้าของที่นั้นได้แจ้งให้ทราบแล้ว ซึ่งหากมีผู้เสียหากจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ทางเจ้าของบ่อขยะก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

นอกจากนี้ นายเบิกชัย นิลปานันท์ ผู้อำนวยการกองช่างสุขาภิบาล ยังเปิดเผยอีกว่า บ่อขยะของเทศบาลนั้น อยู่ห่างออกไปจากบ่อขยะที่เกิดเหตุพอสมควร ซึ่งของทางเทศบาลมีการบริหารจัดการ ในบ่อขยะที่มีความลึก 14 เมตร ในการฝังกลบนั้น จะแบ่งเป็นชั้นผ้ารอง ชั้นขยะ และชั้นดิน สลับกันไป ทำให้การจะเกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นไปไม่ได้ โดยเทศบาลได้ใช้วัสดุผิวถนนเก่าที่รื้อทิ้งนำมากลบ แต่ในฝั่งของบ่อเอกชนที่เกิดเพลิงไหม้นั้นไม่มีระบบบริหารจัดการที่ถูกต้อง ซึ่งทางเทศบาลได้สั่งปิดบ่อไปแล้ว และแนะนำให้นำ ดิน หิน เศษวัสดุก่อสร้างมากลบบ่อ แต่ด้วยศักยภาพก็ทำได้เท่านี้ ทางเทศบาลก็เข้ามาควบคุมโดยตลอด แต่ตรั้งนี้เกิดฟ้าผ่าลงมาที่ขยะเก่าที่อยู่ด้านล่าง ไฟจึงประทุขึ้นมา ดังกล่าว