บุรีรัมย์- ลูกแชทไลน์มา ตาข้างบ้านข่มขืน แม่เข่าทรุดคนเดียวกับแม่ที่เคยโดน
บุรีรัมย์- ลูกแชทไลน์มา ตาข้างบ้านข่มขืน แม่เข่าทรุดคนเดียวกับแม่ที่เคยโดน
เด็กหญิงวัย 11 ปีแชทไลน์บอกแม่วัย 30 ถูกตา 72 ปีข้างบ้านข่มขืนตั้งแต่ 9 ขวบ แม่ทำใจไม่ได้กลับบ้านแจ้งตำรวจพร้อมเผยความเจ็บช้ำครั้งเมื่อแม่อายุ 9 ขวบหรือ 20 ปีที่ผ่านมาเคยถูกตาคนเดียวกันข่มขืนจนต้องเสียคนมาแล้ว ขณะตาต้องสงสัยปฏิเสธเคยแค่พาไปกระท่อมแต่ไม่เคยล่วงละเมิดทั้งแม่ทั้งลูก ตรวจร่างกายจ่อแจ้งข้อหา
วันที่ 12 ต.ค. 66 พ.ต.อ จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญตัว นายล้วน การณรงค์ อายุ 72 ปี ชาวอ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ มาสอบสวนหลัง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านด่าน ว่าด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บ้านด่าน กล่าวหาว่าเป็นคนล่วงละเมิดเด็กมาตั้งแต่ปี 2563 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมา
เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผย หลังจาก ด.ญ.เอ เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านด่าน อ.บ้านด่าน เพราะถูกลูกฟุตบอลของเพื่อนเตะมาโดนใส่ท้อง แล้วแพทย์มาสังเกตุเห็นแขนซ้ายเด็ก มีรอยกรีดทั้งแขน ก่อนจะมาทราบความในใจจากเด็กว่าอัดอั้นไม่มีทางออกที่ถูกตาวัย 72 ปี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านเด็กข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ไม่กล้าบอกให้ใครเพราะกลัวตาทำร้ายตามคำขู่ จึงระบายความเจ็บแค้นด้วยการกรีดแขน ก่อนลูกจะแชทไลน์ไปบอกให้แม่ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดทราบ
ด.ญ.เอ เล่าว่าเมื่อปี 2563 ตอนนั้นอายุได้ 9 ขวบ ตาล้วน ให้ตนไปช่วยปลูกผักหลายครั้ง หลังจากนั้นได้ทำการข่มขืนที่กระท่อมกลางแปลงผัก พร้อมกำชับไม่ให้บอกใคร มิเช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย จึงไม่กล้าบอกให้ย่าทวดที่อยู่ด้วยกัน 2 คน
หลังจากนั้นตาล้วน ก็มักจะชวนให้ไปอีกถ้าไม่ไปก็โดนขู่ แล้วสัญญาว่าจะให้เงินครั้งละ 50-100 แต่ไม่เคยได้ จึงเก็บความเจ็บช้ำไว้ในใจคนเดียว ไม่มีทางออกบอกใครไม่ได้จึงกรีดแขนตัวเอง
ต่อมา น.ส.บี (นามสมมุติ)อายุ 30 ปีแม่ของน้องเดินทางมาที่ สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน พร้อมกับเล่าความคับแค้นในใจว่าตนเองไปทำงานอยู่จังหวัดนครราชสีมา ฝากลูกสาวให้ย่าทวดเลี้ยงที่บ้าน วานนี้ลูกสาวไลน์มาบอกว่าตาล้วน ข่มขืน ตกใจมากจึงเค้นถามลูกว่าจริงหรือไม่ถ้าไม่จริงลูกจะติดคุก ลูกก็ยืนยันว่าตาล้วนข่มขืนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ พอมารู้มาเห็นด้วยตนเองรู้สึกแค้นใจมาก เพราะตาล้วนที่ข่มขืนลูกตัวเอง คือคนเดียวกันที่เคยข่มขืนตนครั้งเมื่ออายุได้ 9 ขวบเช่นเดียวกัน ครั้งนั้นก็บอกใครไม่ได้เช่นเดียวกันกับลูก และขอให้ตาล้วน ได้รับโทษอย่างสาสมที่ทำร้ายเด็กถึง 2 คน คือแม่กับลูก
ขณะที่นายล้วน ผู้ถูกกล่าวหา ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่เคยทำเด็ก ยอมรับว่าชวนเด็กไปกระท่อมจริง แต่ไม่เคยล่วงละเมิด รวมถึงแม่เด็กก็ไม่เคยกระทำเช่นเดียวกัน หากผลการตรวจร่างกายเด็กออกมาก็ว่ากันไปตามนั้น ตนขอปฏิเสธ เพราะชีวิตไม่มีอะไรแล้ว อาศัยที่หลวงปลูกผักหากิน ไม่มีไร่ ไม่มีนาทำเหมือนคนอื่น
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจได้ให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายเด็ก หากพบหลักฐาน ก็จะเรียกเด็กมาสอบพร้อมกับสหวิชาชีพ และหากพว่ามีมูล ก็จะแจ้งข้อกล่าวหานายล้วนฐานกระทำอาจารเด็ก พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง/บุรีรัมย์/รายงาน
