พิจิตร-ตำรวจฝ่ายปกครองเมืองพิจิตร ไล่ล่าจับได้แล้วคนร้ายขนยาบ้า 6.7ล้านเม็ด หลบหนีซ่อนตัว ในบึงสีไฟ ทนความทรมานของอากาศ ที่หนาวเย็นไม่ไหว โผล่ออกมาให้จับกุม
พิจิตร-ตำรวจฝ่ายปกครองเมืองพิจิตร ไล่ล่าจับได้แล้วคนร้ายขนยาบ้า 6.7ล้านเม็ด หลบหนีซ่อนตัว ในบึงสีไฟ ทนความทรมานของอากาศ ที่หนาวเย็นไม่ไหว โผล่ออกมาให้จับกุม
6 ตุลาคม 66 ความคืบหน้าจากเมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจชุด ป.ป.ส.จากส่วนกลางได้สะกดลอยตามขบวนการค้ายาบ้ามาจากภาคเหนือและได้โอกาสจู่โจมเข้าจับกุมคนร้ายทีบริเวณ สี่แยกบายพาสหรือสี่แยกยอแซฟ ถนนทางไปศาลากลางพิจิตร ขณะตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 24 กระสอบ หรือประมาณ 6.7 ล้านเม็ด ซึ่งขณะตรวจค้นอยู่ คนร้ายได้ฉวยโอกาสวิ่งหลบหนี เข้าไปยังกลางทุ่งนา แล้วหนีเตลิดเข้าไปในอุทยานบัว บึงสีไฟ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา คนร้าย หนีไปซุ่มอยู่ ในป่า บัว กลางบึงสีไฟ ตำรวจ ฝ่ายปกครองเมืองพิจิตร พยายาม ค้นหา ทั้งวันจนกระทั่งมืดค่ำ
จึงได้ ยุติ การค้นหา แล้ว วางกำลัง เฝ้าดู โดยรอบบึงสีไฟ ซึ่งมี เส้นทางรอบบึงสีไฟ เกือบ 12 กิโลเมตร เนื่องจากเกรงว่า แก๊งค้ายาเสพติด จะส่งคนมาฆ่าปิดปาก หรือ แอบพาคนร้ายหลบหนี จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงรุ่งเช้า มีฝนตกลงมาอย่างหนัก บริเวณ บึงสีไฟทำให้อากาศหนาวเย็น ตำรวจและฝ่ายปกครองที่ลาดตระเวน อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวใช้โดนบิน ถ่ายภาพค้นหาอีกครั้ง จนกระทั่งเห็นความเคลื่อนไหว ของคนร้ายที่อยู่ใน ป่าหญ้า ในบึงสีไฟ
จากนั้น พตท.สราวุธ เป้าเพชร รอง ผกก.เมืองพิจิตรและนาย ณรงค์สิทธิเขตกรณ์นายอำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ภารกิจในครั้งนี้จึงได้สั่งกำลัง ใช้เรือ บุกเข้าไป ภายในบึงสีไฟ พบคนร้าย มีอาการหนาวสั่น มีสภาพหมดเรี่ยวหมดแรงลอยคออยู่ในน้ำจึงได้นำตัว ขึ้นมาจากน้ำ ให้ดื่มน้ำ และ ให้ความอบอุ่น แก่ร่างกาย จากการสอบสวนจึงได้ทราบว่าคนร้ายรายนี้ชื่อนาย ณัฐชนน ภัทรชรกูล อายุ 25 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่ที่ 245 หมู่ 6 ตำบลยาบหัวนา อ. เวียงสา จ.น่าน จากนั้นได้ทำตัว ไปทำการ ทำประวัติ และสอบสวนในเบื้องต้น ซึ่งตำรวจ ป.ป.ส. จากส่วนกลาง ซึ่งเป็นเจ้าของคดี และผู้ ติดตามคนร้ายมาตั้งแต่ต้นทาง และอยู่ร่วมจับกุม ในวันเกิดเหตุ จึงได้ขอ นำคนร้ายและของกลาง เข้ากรุงเทพฯเพื่อ ทำการสอบสวนและขยายผล ต่อไป
สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ต้องขอชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปกครองอาสาสมัครกู้ภัย และประชาชน ที่อยู่รอบบึงสีไฟที่ให้ความร่วมมือ เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง จนตำรวจ สามารถได้รูปพรรณสัณฐานคนร้ายอย่างชัดเจน จึงสามารถจับกุม แก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในครั้งนี้ได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาทำงาน จนถึง 2 วัน 1 คืนดังกล่าว