กาฬสินธุ์-เรียกพ่อค้าไม้พะยูงสอบเส้นทางซื้อขายซัดทอดนายทุนจีน

กาฬสินธุ์-เรียกพ่อค้าไม้พะยูงสอบเส้นทางซื้อขายซัดทอดนายทุนจีน
คณะกรรมการตรวจสอบเชิงลึก และชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาตัดไม้พะยูงโรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์ เรียกพ่อค้าซื้อไม้พะยูงทุกแห่งในจังหวัดกาฬสินธุ์สอบปากคำ เบื้องต้น 1 รายให้ประโยชน์ต่อทางราชมาก คาดเชื่อมโยงถึงนายทุนจีน และสามารถเอกซเรย์ไทม์ไลน์ติดต่อซื้อขายกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ได้อย่างชัดแจ้ง ส่วนราคาซื้อขายที่ต่ำกว่าตลาด 30-50 เท่า ทำรัฐเสียหาย คาดจ่ายใต้โต๊ะและมีการแบ่งเค้กสวาปาม
จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่า 1 ล้านบาท หายไปจากเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อต้นเดือน ส.ค.66 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องด้วยการพบเหตุตัดไม้พะยูงขายในโรงเรียนและที่ราชพัสดุจำหน่ายหลายแห่ง โดยทุกแห่งเป็นการตัดไม้พะยูงโดยใช้ช่องว่างทางกฎหมาย นอกจากนี้ยังส่อเอื้อประโยชน์ให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐบางคน ขณะที่นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ และนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กำลังดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันที่มีชาวบ้านผู้รักษ์และหวงแหนไม้พะยูง ส่งข้อมูลการลักลอบตัดและขออนุญาตตัดไม้พะยูงในโรงเรียน มาที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่ามีการแจ้งเหตุตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุแล้วจำนวน 12 แห่ง ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 22 กันยายน 2566 นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าคณะตรวจสอบเชิงลึก และหัวหน้าชุดเฉพาะกิจตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัดไม้ในโรงเรียน กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ และคณะทำงานฯ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี โรงเรียนหนองโนวิทยาคม และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก ข้อมูลที่พบคือเป็นการตัดไม้ที่ขัดต่อคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด และคำสั่งของกรมธนารักษ์ ตาม ว 20 ลงวันที่ 1 ก.พ.60 โดยต้องมีเหตุผลและความจำเป็นเท่านั้น นอกจากนี้จากหลักฐานการทำสัญญาซื้อขาย และประเมินราคาก็ปรากฏชัดเจนว่า มีบุคคลที่เป็นพ่อค้าเข้ามาซื้อขาย มีการจ่ายเงินลงรับใบเสร็จราคาต่ำ ซึ่งจากการประเมินราคากลางโดยคณะกรรมการ ที่ทางโรงเรียนแต่งตั้ง และราคามาตรฐานกรมป่าไม้แตกต่างกันมาก ขณะที่เบื้องต้นทราบว่า พ่อค้าที่มาซื้อไม้ได้จ่ายเงินค่าซื้อไม้ในราคาค่อนข้างสูงกว่าที่ลงจำนวนเงินในใบเสร็จ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางคณะทำงานตรวจสอบเชิงลึก และชุดเฉพาะกิจฯ กำลังติดตามไทม์ไลน์กันอยู่
นายธวัชชัยกล่าวอีกว่าแนวทางการติดตามตรวจสอบ เบื้องต้นทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเชิงลึก ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวลดส้อม จ.กาฬสินธุ์ นายอำเภอ ป้องกันจังหวัด นิติกร รวม 7 คน ตรวจสอบในเรื่องการอนุมัติตัดไม้ การจำหน่ายไม้ ควบคู่กับทาง อ.ยางตลาด อ.ห้วยเม็ก และ อ.หนองกุงศรี เพื่อสรุปผลการดำเนินการมาที่จังหวัด ซึ่งช่วงนี้ก็ยังรอธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 รายงานเพิ่มเติมเข้ามา ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้เร่งรัดติดตามการดำเนินการ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ล่าสุดทราบว่าบางอำเภอได้เรียกผู้ซื้อไม้มาสอบปากคำแล้ว ซึ่งให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการมาก ขณะที่ ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์เอง ก็กำลังทำการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ โดยจังหวัดจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านนายกฤติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าหลังจากได้รับคำสั่งจากทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหนองโนวิทยา ต.หัวหิน โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว และเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนห้วยเม็กวิทยา โดยได้มอบหมายฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานเชิงลึก ทุกด้าน ทั้งเอกสาร พยานบุคคล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 10 ปาก ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก แต่ในส่วนผู้ซื้อไม้พะยูงตามเอกสารนั้น ได้เชิญมาสอบปากปากคำแล้ว แต่ยังไม่เห็นเข้ามา ซึ่งก็คงจะต้องอาศัยอำนาจของ ปปช.และทางจังหวัด ดำเนินการเรียกตัวมาสอบปากคำต่อไป
ขณะที่นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียน กล่าวว่า เกี่ยวกับประเด็นการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนและที่ราชพัสดุ ที่เกิดขึ้นใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์นั้น จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ 2-3 โรงเรียน พบว่าธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ อนุญาตให้ทางโรงเรียนขายไม้พะยูงเพื่อนำเงินเข้าหลวงนั้น ต่ำกว่าราคาประเมินของกรมป่าไม้ถึง 30-50 เท่า ทำให้รัฐเสียหาย คาดมีการรั่วไหลและมีการแบ่งเค้ก ขณะที่มีพยานบุคคลให้ข้อมูลว่าจ่ายสูงกว่าที่ลงจำนวนในเงินในใบเสร็จ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียน มีใบสั่งจากนายทุนจีน และทำกันเป็นขบวนการ พฤติกรรมคือมีการวางคน และสร้างสถานการณ์ บางครั้งสบโอกาสดี ปลอดคน ก็ตัดทอนเป็นท่อนขนย้ายไม้ไป โดยให้เงินค่าจ้างรางวัลค่อนข้างสูง จึงล่อใจให้แก๊งมอดไม้เทียวก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย และกลายเป็นช่องทางให้บุคคลบางกลุ่ม ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย อย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์หลายครั้ง