จันทบุรี-ตม.จว.จันทบุรี รวบหกเวียดนาม อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดและถูกเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร

ตม.จว.จันทบุรี อำนวยการโดย พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จวจันทบุรี ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี และ พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม สว.ตม.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ตม.จว.จันทบุรี ออกสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวและป้องกันการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีเหตุจับกุมชาวเวียดนามจำนวนสิบสามราย ในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งการจับกุมครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวนสามสิบกว่าเครื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีกจำนวนมาก ได้เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ชลบุรี

ทำให้ ตม.จว.จันทบุรี ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุในลักษณะเดียวกันที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ จากการเฝ้าระวังนั้นจึงได้พบและทำการจับกุม นายวาน ตุง เหงียน อายุ ๓๐ ปี สัญชาติเวียดนาม พร้อมพวกรวมหกราย ที่มากับรถยนต์ตู้โดยสารส่วนบุคคล ได้ที่หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอน ซึ่งจากการชยายผลตรวจสอบทั้งหกรายนี้เป็นบุคคลเดียวกันกับที่เคยถูกจับกุมพร้อมกับพวกรวมสิบสามรายที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 ในความผิดร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมฯ มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการจับกุม นายวาน ตุง เหงียน พร้อมพวกรวมหกราย ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอน นำตังส่ง สภ.สะตอน ดำเนินคดีตามกฎหมายและนำตัวส่งที่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิพัทฒ์ สัจจพันธ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 ได้สั่งกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี เพิ่มความเข้มงวดกวดขันและตรวจสอบบุคคลต่างด้าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดของคนต่างด้าวเนื่องจากจังหวัดจันทบุรีมีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอาจสะดวกต่อการลักลอบเดินทางหลบหนีเข้า-ออก ราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่มีต่อตำรวจ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อการดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขของคนในชุมชน ต่อไป