ตำรวจไซเบอร์เฝ้าระวังตรวจสอบ การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ชักจูงส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้กระทำผิด
ตำรวจไซเบอร์เฝ้าระวังตรวจสอบ การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ชักจูงส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้กระทำผิด
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเด็กหรือเยาวชนซึ่งมีอาการมึนเมาคล้ายเสพสารเสพติดภายในงานเลี้ยงสังสรรค์แห่งหนึ่ง โดยมีผู้ใหญ่จำนวนมากอยู่ด้วย เป็นเหตุให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายว่าเหตุใดผู้ใหญ่จึงปล่อยให้เด็กหรือเยาวชนตกอยู่ในสภาพดังกล่าวนั้น
ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการในสังกัด เฝ้าระวัง และตรวจสอบการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว หากพบการกระทำผิดให้เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุม พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวนอกจากจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีอัตราโทษสูงแล้ว ผู้ปกครองยังอาจจะมีความผิดฐาน บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26 (3), 78 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุตรหลาน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง พร้อมกับตรวจสอบดูแลพฤติกรรมของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ควรใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อสังคม