กองทัพเรือ ปิดศูนย์ ศคปน.ทรภ.1 หลัง 3 วัน ขจัดคราบน้ำมันได้ ไทยออยล์ ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับผิดชอบทั้งหมด จากนี้เร่งฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
กองทัพเรือ ปิดศูนย์ ศคปน.ทรภ.1 หลัง 3 วัน ขจัดคราบน้ำมันได้ ไทยออยล์ ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับผิดชอบทั้งหมด จากนี้เร่งฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
กองทัพเรือ (ทร.) ปิดศูนย์ปฎิบัติการขจัดคราบน้ำมัน หลังขจัดคราบน้ำมันได้และไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเป็นเวลานาน 3 วัน หลังจากเกิดเหตุ ด้านผู้บริหาร ไทยออยล์ ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับผิดชอบทั้งหมด หลังจากนี้เร่งฟื้นฟูและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จากเหตุการณ์ น้ำมันรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยว กลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล ทุ่น SBM 2 ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ที่เกิดเหตุท่อน้ำมันรั่วไหลระหว่างทำการขนถ่ายสินค้ากลางทะเล ทร. ได้เปิดศูนย์การปฏิบัติงานควบคุมการปฏิบัติในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันของกองทัพเรือ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) พร้อมสนธิกำลังจากทุกภาคส่วนปฎิบัติการ จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ตั้งแต่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 3 ก.ย.66 จนถึงวันนี้ 7 ก.ย.66 จึงขอยุติศูนย์ดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.66 ศูนย์การปฏิบัติงานควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ทัพเรือภาคที่ 1
(ศคปน.ทรภ.1) ได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน เพื่อปิดศูนย์การปฏิบัติงานควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน หลังลงพื้นที่ตรวจสอบในทะเลไม่พบคราบน้ำมันในทะเล มาเป็นเวลานานกว่า 3 วัน โดยมี พลเรือตรี พาสุกรี วิลัยรักษ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะรองโฆษกกองทัพเรือ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านความปลอดภัย นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) พลเรือตรี รังสรรค์ บัวเผือก เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 และนายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมแถลงข่าว
โดยนายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คณะผู้บริหารกลุ่มไทยออยล์ รวมทั้งพนักงานไทยออยล์ทุกคน รู้สึกเสียใจและต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง กับเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล(SBM-2) ทันทีที่เกิดเหตุทาง บริษัทฯ ได้ทุ่มสรรพกำลังและทรัพยากร พร้อมประสานขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการแก้ไขสถานการณ์ป้องกันและบรรเทาผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม จนทำให้สถานการณ์กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมและคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหาก บริษัทฯ ไม่ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทัพเรือภาคที่ 1 กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง งานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี กองบังคับการตำรวจน้ำ ท่าเรือแหลมฉบัง ภาคีเครือข่ายจากสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน หรือ IESG รวมถึงสื่อสารมวลชน ที่ช่วยเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องให้สาธารณชนได้รับทราบ สาหรับสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบในรายละเอียด และร่วมมือกับทีมผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพี่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้อง บริษัทฯ จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐอย่างเต็มที่ในการติดตามตรวจสอบและดำเนินการต่างๆ เพี่อให้สภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเล ไม่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านความปลอดภัย เผยว่า หลังจากที่มีการปิดศูนย์ปฏิบัตการฯ ทางศูนย์ปฏิบัติการฯ โดยกองทัพเรือ ได้ส่งมอบหน้าที่มายังกรมเจ้าท่า ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ เพื่อประสานงานต่อไป ในเรื่องของการดำเนินการในส่วนของการรับฟังและประสานงาน หากกรณีที่มีการร้องเรียนหรือมีผู้ได้รับผลกระทบ ก็จะเป็นเรื่องที่จังหวัดเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในส่วนนี้ โดยกรมเจ้าท่า จะเป็นหน่วยที่ประสานงานและจัดการเพื่อติดต่อกับไทยออยล์ และในส่วนของการฟื้นฟูจากนี้ไป จะเป็นเรื่องของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นหน่วยงานหลัก ในการที่จะทำแผนงานโครงการหรือการตรวจสอบถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้นจากน้ำมันรั่วไหลในครั้งนี้ ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทางไทยออยล์ ที่ได้แสดงถึงความรับผิดชอบในการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว และความสำเร็จในครั้งนี้ต้องบอกว่า ทุกหน่วยงานมีการประสานงานบูรณาการทำงานกันอย่างเป็นระบบ มีการสั่งการและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ทางด้าน พลเรือตรี พาสุกรี วิลัยรักษ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะรองโฆษกกองทัพเรือ เผยว่า หลังเกิดเหตุ กองทัพเรือ ได้ดำเนิการจัดตั้ง ศอปน.ทร. โดย พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัดชลบุรี และบริษัท ไทยออยล์ ฯ จัดกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ เร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ทะเล จนสถานการณ์คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น จนเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ทั้งนี้ความสำเร็จต่างๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่าย รวมถึงการเตรียมความพร้อมที่เกิดขึ้นจากการฝึก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ของ ศรชล. จัดให้มีการฝึกปฏิบัตการร่วม ศรชล. เป็นประจำทุกปี ทำให้เกิดความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และองค์ความรู้ที่ได้จากการฝึก ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สามารขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลและแก้ไขสถานการณ์ กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว ในครั้งนี้
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645