28/12/2024

หลักเกณฑ์และวิธีการเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ

IMG_8300

หลักเกณฑ์และวิธีการเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ

ด้วยพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 9 (5) กำหนดการออกเสียงประชามติกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้ประกาศหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกรณีดังกล่าว ดังนี้

1. ต้องมีจนวนผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่น้อยกว่า50,000 คน ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้าม และไม่ถูกจกัดสิทธิตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564

2. จัดทำหนังสือกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงต้องมีเนื้อหาที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้ว่าประสงค์จะออกเสียงในเรื่องใดและเรื่องนั้นมิใช่เรื่องที่ต้องห้ามมิให้ออกเสียงตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

3. รายชื่อผู้มีสิทธิเข้าชื่อ ต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับเลขประจตัวประชาชน ชื่อ ชื่อสกุล และลายมือชื่อของผู้มีสิทธิเข้าชื่อทุกคน พร้อมทั้งจัดทรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าชื่อในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ใส่แผ่นบันทึกข้อมูล หรืออุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบพกพา โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับเลขประจตัวประชาชน ชื่อ ชื่อสกุล ของผู้มีสิทธิเข้าชื่อทุกคน

4. ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อยื่นเอกสารและข้อมูลด้วยตนเองต่อสนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือสนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจจังหวัด หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขที่ 120 หมู่ที่ 3 ชั้น 2รรัฐประศสนภักดี  ศูนย์รชกรเฉลิมพระเกียรติ
80 พรรษ 5 ธันวคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่  กรุงเทพมหนคร รหัสไปรษณีย์ 10210  หรือจัดส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ E-mail : [email protected]

5. เมื่อสนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับเอกสารและข้อมูลแล้ว จะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดในหนังสือการเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง ว่าถูกต้องตามแบบที่กหนดหรือไม่ และตรวจสอบจนวนผู้มีสิทธิเข้าชื่อว่าครบถ้วนหรือไม่ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเอกสาร ในกรณีผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อยื่นเอกสารต่อสนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจจังหวัด
ให้สนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจจังหวัดจัดส่งเอกสารและข้อมูลดังกล่าวให้สนักงานกรรมการ
การเลือกตั้ง เนินการตรวจสอบเบื้องต้นภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับเอกสารและข้อมูล

หากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนก็จะแจ้งผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อทราบโดยเร็ว และนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดส่งเอกสารให้สนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อไป

ในกรณีที่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้องครบถ้วน จะแจ้งผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อพร้อมทั้งส่งเรื่องคืนเพื่อดเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนและยื่นต่อสนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งตามวิธีการ
ที่กหนดไว้ในข้อ 4 ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง แต่หากผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อดเนินการไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวให้การเสนอเรื่องการเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เป็นอันยุติในคราวนั้น

6. เมื่อนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับเอกสารและข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการ
การเลือกตั้งแล้ว จะพิจารณามอบหมายหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดเนินการตรวจสอบการเข้าชื่อของผู้มีสิทธิเข้าชื่อว่ามีความถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยอาจขอให้หน่วยงานของรัฐอื่นสนับสนุนและช่วยเหลือในการตรวจสอบได้

โดยในการตรวจสอบการเข้าชื่อ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเลขประจตัวประชาชนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อผู้ใดไม่ถูกต้อง ให้หักออก หากยังมีผู้มีสิทธิเข้าชื่อครบจนวนตามข้อ 1 จะเนินการเสนอรายงาน
ต่อคณะรัฐมนตรี ให้หน่วยงานของรัฐจัดทความเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบในเรื่องที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง ต่อไป แต่หากผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่ครบจนวน จะต้องรายงานสนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อยุติการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง และแจ้งผู้แทนของ
ผู้มีสิทธิเข้าชื่อพร้อมทั้งส่งเรื่องคืนให้ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อและแจ้งสนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ

ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเข้าชื่อได้จากพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 20มาตรา 21 และมาตรา 24

————————–

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป