15/11/2024

กาฬสินธุ์-ความหวังใหม่ชาวนาหันปลูกปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หวังโกยเงิน

กาฬสินธุ์-ความหวังใหม่ชาวนาหันปลูกปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หวังโกยเงิน
ชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ หันมาเพาะปลูกข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 มากขึ้น ส่วนใหญ่ทำนาดำ เพราะดูแลง่าย มีภูมิต้านทานโรค ประหยัดปุ๋ย ได้ผลผลิตสูงกว่าทำนาหว่าน ด้านสมาชิกกลุ่มปุ๋ยสั่งตัดอำเภอยางตลาดฟุ้ง คาดฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีนี้ ได้ผลผลิตและกำไรสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาข้าวจ้าวหอมมะลิดีดตัวสูงขึ้น ขณะที่ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่เผย รับซื้อข้าวเปลือกจ้าวมะลิที่ราคาตันละ 16,000 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาตันละ 2,000 บาท
วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพทำนา ของชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ทั้งในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานลำปาวและนอกเขตชลประทานลำปาว พบว่าฤดูกาลเพาะปลูกปี 2566/67 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำนา 2 ลักษณะคือ หันมาทำนาโดยการปักดำแทนการทำนาหว่านมากขึ้น และเปลี่ยนพันธุ์ข้าวจากข้าวเหนียว เป็นข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 กันมากขึ้น
นายสุทิน เพ็งแดง ผู้ใหญ่บ้านโคก หมู่ 4 ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ทำนา 7 ไร่ หลายปีที่ผ่านมาทำนาหว่าน โดยเพาะปลูกข้าวเหนียว เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา แต่ประสบปัญหาผลผลิตต่ำ ใช้ปุ๋ยปริมาณมาก ต้นทุนทำนาสูง บางครั้งเกิดโรคระบาด โดยเฉพาะราคาขายข้าวเปลือกต่ำ ขณะที่ราคาข้าวเปลือกจ้าวสูงกว่าข้าวเปลือกเหนียว ก.ก.ละ 2-3 บาท ระยะหลัง จึงหันมาเพาะปลูกข้าวจ้าวแทนข้าวเหนียว โดยใช้พันธุ์หอมมะลิ 105 ปีที่แล้วทดลองปลูก 2 แบบ เพื่อเปรียบเทียบผลผลิต คือทำนาดำ 1 ไร่ ส่วนอีก 6 ไร่ทำนาหว่าน ผลปรากฏว่าทำนาดำได้ผลผลิตสูงกว่า ปีนี้จึงลงทุนทำนาดำทั้ง 7 ไร่ ลงทุนไปแล้วกว่า 35,000 บาท และคาดว่าได้ราคาสูง ก.ก.ละไม่ต่ำกว่า 15 บาท ซึ่งราคาสูงกว่าข้าวเหนียว
ด้านนายวิชัย น้อยเสนา ประธานกลุ่มปุ๋ยสั่งตัด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากราคาปุ๋ยเคมีตามท้องตลาดราคาสูง กระสอบละ 50 ก.ก. ซึ่งบางช่วงราคาสูงถึงกระสอบละ 1,500 บาท ขณะที่ปัจจุบันประมาณ 900-1,000 บาท ตามสูตรปุ๋ย ทางกลุ่มปุ๋ยสั่งตัดซึ่งมีสมาชิก 40 คน พื้นที่ทำนากว่า 270 ไร่ จึงลดทุนทำนา โดยคิดสูตรปุ๋ยสั่งตัด ให้เหมาะสมกับสภาพดิน เพื่อลดทุนการใช้ปุ๋ยเคมี ที่สามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี และลดทุนลงกว่า 30% ในขณะเดียวกันยังเพิ่มผลผลิตข้าวอีกด้วย เฉลี่ยไร่ละ 700-1,000 ก.ก.ทีเดียว ทั้งนี้ จากสถานการณ์ตลาดข้าว มีแนวโน้มราคาข้าว โดยเฉพาะข้าวจ้าวปรับตัวสูงขึ้น ในฤดูกาลเพาะปลูกข้าวปี 2566/67 จึงพบว่าสมาชิกปุ๋ยสั่งตัดเรา รวมทั้งชาวนาทั่วไป หันมาเพาะปลูกข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 กันมากขึ้น ซึ่งต่างก็ตั้งความหวังไว้ว่าขายผลผลิตข้าวเปลือกปีนี้จะได้ราคาดี มีกำไร และที่แน่ๆ ราคาข้าวเปลือกจ้าว สูงกว่าข้าวเปลือกเหนียว
ขณะที่นายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนราคารับซื้อข้าวเปลือกนั้น ในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2565/66 ที่ผ่านมา ข้าวเปลือกเหนียวสด ราคาตันละประมาณ 7,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียวแห้งตันละ 13,000 บาท ข้าวเปลือกจ้าวนาปรังหอมมะลิสดตันละ 8,000 บาท ข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิแห้งตันละ 14,000 บาท อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาข้าวปัจจุบัน ที่มีผลมาจากกลไกตลาดหลายปัจจัย คาดว่าราคารับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกนาปี 2566/67 ข้าวเปลือกเหนียวแห้งตันละประมาณ 14,000 บาท และข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิตันละ 16,000 บาท สูงจากปีที่ผ่านมาตันละ 2,000 บาท ทั้งนี้ ราคารับซื้อทั้งข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิ ประเมินราคารับซื้อตามคุณภาพข้าว
***เสียงสัมภาษณ์***นายวิชัย น้อยเสนา ประธานกลุ่มปุ๋ยสั่งตัด
***ภาพเกี่ยวข้าวและภาพตากข้าว***แฟ้มภาพ

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป