20/09/2024

ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฏีกาคดี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ฟ้อง กกต.

ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฏีกาคดี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ฟ้อง กกต.

ตามที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง เขตเลือกตั้งที่ 2 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กล่าวอ้างว่า คณะกรรมการ
กาเลือกตั้ง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ใช้ดุลยพินิจไม่น่าเชื่อถือ เจตนาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใด ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษายกฟ้อง
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง นายนิพิฏฐ์ ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องยืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และนายนิพิฏฐ์ ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฏีกาต่อศาลฎีกา นั้น

วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อ่านคำสั่งของศาลฎีกา ในคดีหมายเลขดำที่ อท.92/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท.53/2564 โดยศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา เนื่องจากไม่ได้เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไม่มีผลเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญในคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จึงไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ดังนั้น คำพิพากษาของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง) ที่ได้พิพากษาว่า คำฟ้องโจทก์ไม่มีมูล ยกฟ้องจำเลยทั้ง 7 และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จึงเป็นคำพิพากษาที่เป็นที่สุด

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

——————————

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป