กาฬสินธุ์ปกครองอำเภอกมลาไสยจับสึกเจ้าอาวาสเสพยาบ้ากลางพรรษา
ฝ่ายปกครองอำเภอกมลไย จังหวัดกาฬสินธุ์เดินหน้ายุทธการฟ้าแดงสงยางระดมการกวาดล้างยาเสพติดจับสึกเจ้าอาวาสและพระลูกวัดกลางพรรษา หลังชาวบ้านร้องเรียนแจ้งเบาะแสเสพยาบ้า จับตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ยังคงเดินหน้ายุทธการฟ้าแดง สงยางระดมการกวาดล้างยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดภายใต้การอำนวยการโดยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอกมลาไสย และนายกิตติศักดิ์ มนตรี ปลัดอาวุโสอำเภอกมลาไสย ได้มอบหมายให้นายวันชัย สารภาค ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอกมลาไสย นายปฎิพัฒน์ สีทอนราช ปลัดอำเภอป้องกัน พร้อมด้วยสมาชิก อส.กมลาไสย ลงพื้นที่ได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีประชาชนแจ้งเบาะแสและร้องเรียนมายังอำเภอกมลไสยว่าเจ้าอาวาสและพระลูกวัด ในวัดประชาศรัทธาธรรม บ้านด่านเหนือ ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด
ทั้งนี้หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกมลาไสยร่วมกับผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำการตรวจปัสสาวะพระในวัด ซึ่งพบสารเสพติดในร่างกายพระสงฆ์ 2 รูป คือพระชารี นรินโท หรือนายชารี ยุบลพาส อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.2 ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เป็นเจ้าอาวาสวัด และพระสุระศักดิ์ สุเมโธ หรือนายสุรศักดิ์ แน่นอุดร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.2 ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพระลูกวัด
โดยทั้งสองรูปให้การยอมรับว่าได้เสพยาเสพติดยาบ้าจริง และเสพมานานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงให้ทั้งสองคนพาไปทำการตรวจค้นกุฏิ ซึ่งพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 เม็ด อยู่ข้างที่นอนในกุฏิของพระชารี จึงได้ทำการจับกุม พร้อมนำตัวไปทำการสาสิกขาบท และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
***เจ้าอาวาสคนแรก***คนสองพระลูกวัด***เบลอหน้าผู้ต้องหาด้วยนะครับ***