กาฬสินธุ์-โผล่อีกลักลอบตัดไม้เขตป่าสงวนแห่งชาติผู้ว่าฯสั่งฟันไม่เลี้ยง
กาฬสินธุ์-โผล่อีกลักลอบตัดไม้เขตป่าสงวนแห่งชาติผู้ว่าฯสั่งฟันไม่เลี้ยง
ฝ่ายปกครองอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาป่าที่ 4 กส.4 (ภูพระ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าคันโท จับกุมมอดไม้ลักลอบตัดไม้ประดู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงมูล ตรวจยึดรถเครนบรรทุกไม้พร้อมเลื่อยยนต์และไม้ของกลาง เผยผลจากการป้องกันเหตุลักลอบไม้พะยูงอย่างเข้มข้น จนทำให้แก๊งมอดไม้หันมาตัดไม้ประดู่แทน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้ทุกพื้นที่กวดขันแก๊งมอดไม้ให้สิ้นไป ใครมีเอี่ยวสั่งฟันไม่เลี้ยง
วันที่ 14 สิงหาคม 2566 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าได้รับรายงานจากฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอท่าคันโท และหน่วยรักษาป่าที่ 4 กส.4 (ภูพระ) ว่าเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบตัดไม้บนพื้นที่ภูโน เขต ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท บนเขตป่าสงวนแห่งชาติดงมูล (ภูโน) ห่างจากหมู่บ้านนาคำน้อยไปทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้านประมาณ 4.5 กม. เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังออกตรวจตามที่ได้รับแจ้ง
นายศุภศิษย์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบรถบรรทุก 6 ล้อ หมายทะเบียนหมายเลข 83-5965 ขอนแก่น พร้อมติดตั้งเครนตามที่ได้รับแจ้ง บรรทุกไม้ประดู่ จำนวน 4 ท่อนลักษณะพึ่งถูกตัด ใกล้กันพบตอไม้ประดู่ที่ถูกตัด พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบชาย 3 คน ที่กันลำเลียงท่อนไม้ประดู่ที่ถูกตัดขึ้นรถบรรทุก จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบและจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง โดยตัดเพื่อที่จะนำไปจำหน่ายต่อ
“จากการตรวจสอบหลักฐานประจำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายคงเดช อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 4 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์, นายวิบูลย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และนายสวัสดิ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 11 บ้านหนองกบ ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ. กาฬสินธุ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายศุภศิษย์กล่าว
นายศุภศิษย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการป้องกันเหตุลักลอบตัดไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ตามพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์นั้น ได้ออกคำสั่งทางการปกครองให้เจ้าหน้าที่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายคุมเข้มป้องกัน และกวดขันแก๊งมอดไม้ให้สิ้นไปจาก จ.กาฬสินธุ์อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามวินัยและอาญา โดยไม่มีการอุทธรณ์
อย่างไรก็ตาม ในกรณีลักลอบตัดไม้ประดู่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงมูลครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่าจากกรณีพบเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง และยังไม่สามารถจับกุมขบวนการมอดไม้ได้ ขณะที่ฝ่ายปกครองป้องกัน จัดเวรยามอย่างเข้มข้น จึงเป็นสาเหตุให้แก๊งมอดไม้หันไปตัดไม้ประดู่ตามใบสั่งนายทุนแทน อย่างกรณีที่จับได้ผู้ต้องหาที่ 3 รายในครั้งนี้
โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนสารภาพว่าได้ขึ้นมาตัดไม้ประดู่ในบริเวณดังกล่าวได้ 6 วันแล้ว เพื่อจะนำไปจำหน่ายให้กับผู้ที่จะรับซื้อต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 13 ฐาน ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69 ฐาน ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดต่อ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดผลิตหรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว