24/11/2024

ตำรวจไซเบอร์จับขบวนการหลอกเทรดคริปโต ตุ๋นเหยื่อผ่านเฟซบุ๊กสูญเงินกว่า 12 ล้าน ​

ตำรวจไซเบอร์จับขบวนการหลอกเทรดคริปโต ตุ๋นเหยื่อผ่านเฟซบุ๊กสูญเงินกว่า 12 ล้าน

สืบเนื่องจาก เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้รับการติดต่อผ่าน Facebook ในช่องแชทส่วนตัว โดยมิจฉาชีพอ้างว่าเปิดบริษัทเกี่ยวกับการเทรดเหรียญสกุลเงินดิจิทัล จึงได้ชักชวนลงทุนผ่านเว็บไซต์ชื่อdeepcoin-vip.com ซึ่งเป็นการลงทุนง่ายๆ ให้ผลตอบแทนสูงและรวดเร็ว ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ลงทุนด้วยเรื่อยมา โดยโอนเงินทั้งหมด 21 ครั้งผ่าน 16 บัญชี รวมเป็นเงิน 12,253,568.73 บาท สุดท้าย เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินทั้งหมด บุคคลที่เคยติดต่อกลับบ่ายเบี่ยง และแจ้งว่าต้องโอนค่าภาษีก่อนจึงจะถอนได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกและได้เข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว จำนวน 16 ราย

ต่อมา วันที่ 5 ส.ค. 2566 เวลาประมาณ 20.00 น. พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1
ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 เข้าร่วมจับกุมตัว นายบัญชา อายุ 49 ปี ชาวชลบุรี หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ในข้อหา “ร่วมฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด” โดยควบคุมตัวได้บริเวณบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม. 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนได้เปิดบัญชีธนาคารให้แก่บุคคลหนึ่งโดยได้มอบสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มให้แก่ผู้ว่าจ้างไป โดยได้รับค่าจ้างในการเปิดบัญชีเพียง 1,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหาย และจะเร่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป