ยะลา-เบตง เดือดร้อนหนักช้างป่าวนเวียนทำลายต้นทุเรียน
เบตง ชาวสวนทุเรียนแม่หวาด เดือดร้อนหนัก ร้องสื่อ ช้างป่าวนเวียน ทำลายต้นทุเรียน ต้องเฝ้าทุกคืน ไร้การตรวจสอบเช่วยเหลือ อยากให้หน่วยงานรัฐ เยียวยา เร่งหามาตรการแก้ไขเร่งด่วน ก่อนสวนจะเป็นที่อยู่ที่หากินของช้างป่าถาวร
วันที่ 6 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านในหลง ม.10 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากช้างป่าที่ลงมากินผลไม้และทำลายล้มโค่นต้นทุเรียนและข้าวของในสวนชาวบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาเนินนาน ในอดีตที่ผ่านมาช้างป่าจะออกมาครั้งสองครั้งต่อปี แต่ปัจจุบันช้างป่าเข้ามาทำลาย และกินผลไม้ชาวสวนแทบทุกคืน ซึ่งมีสวนผลไม้ที่ได้รับผลกระทบได้รับความเสียหายจากช้างป่า ทั้งที่ผลไม้ได้ผลผลิตและยังไม่ได้รีบผลผลิต กว่า 20 แปลง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมพบปะพูดคุยกับชาวบ้านและดูร่องรอยความเสียหาย
นายบุญฤทธิ์ ชูช่วย อายุ 54 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สวนทุเรียนของตน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน เพื่อดูร่องรอยของช้างป่า ที่มาทำลายต้นทุเรียนและทำลายข้าวของในสวน พบว่า ภายในสวนยังมีรอยเท้าช้าง ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ และมีขี้ช้างอยู่หลายกอง ต้นทุเรียนที่ปลูกไว้ อายุ ประมาณ 3-4 ปี หลายต้นถูกช้างป่าล้มโค่นถอนรากถอนโคน ถังน้ำขนาด 200 ลิตร หลายใบ ก็ถูกช้างป่า เหยียบจนแตก
นายบุญฤทธิ์ เล่าว่า ช้างป่าโขลงนี้จะมีอยู่ประมาณ 5-6 ตัว จะเดินวนเวียนหากินอยู่ในพื้นที่ ม.10 บ้านในหลง และ ม.2 บ้านวังไทร แทบทุกคืนจะออกมาหากินและทำลายต้นทุเรียนของชาวบ้าน จนชาวบ้านต้องไปนอนเฝ้าในสวน หากคืนไหนไม่ได้ไปนอนเฝ้า ช้างก็จะเข้าไปกินผลทุเรียนและล้มต้นทุเรียนทำลายข้าวของเสียหายหมด เวลานอนเฝ้าหากช้างมา ชาวบ้านก็ได้เพียงจุดปะทัดไล่ ช้างก็จะไป แต่อีกวันสองวันช้างก็จะกลับมาอีก บางคืนก็จะมีชาวบ้านเห็น ช้างป่าลงไปเล่นน้ำในเขื่อน ในอดีต บางปีช้างป่าจะมา บางปีก็ไม่มา แต่ปีนี้ช้างป่ามาอยู่ตลอด แทบไม่ไปไหน วนเวียนหากินอยู่แต่บริเวณนี้ ซึ่งบริเวณนี้แทบจะเป็นที่อยู่ที่หากินของช้างป่าโขลงนี้ไปแล้ว นอกจากที่ชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่าโขลงนี้เป็นอย่างมากแล้ว ชาวบ้านยังต้องระวังเมื่อพบเจอกับช้างป่า เพราะเมื่อหลายปีก่อน ก็เกิดเหตุช้างป่า ทำร้ายผู้ใหญ่บ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นายมนูญ สุพงค์ ก็เป็นชาวสวนอีกคนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าโขลงนี้ ได้เล่าให้ฟังว่า สวนทุเรียนของตนก็ได้รับความเสียหายจากช้างป่าทุกปี ปีละครั้ง แต่ในปีนี้ช้างป่าเข้ามาที่สวนบ่อยมาก ช่วงทุเรียนออกผลผลิต ช้างป่า เข้ามากินผลทุเรียน ล้มต้นทุเรียน ทำลายข้าวของ 5 รอบแล้ว ช่วงแรกๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยขับไล่ช้าง มาตรวจดูสอบถามความเสียหาย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลือเยียวยาอะไร ช่วงหลังมานี้ช้างป่ามาบ่อยมาก จนเจ้าหน้าที่รัฐไม่มาช่วยขับไล่ ไม่เข้ามาตรวจสอบอะไรแล้ว ชาวบ้านต้องไปเฝ้าคอยไล่ช้างกันเอง มีแต่นายก อบต. ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านระแวกนี้ ที่เข้ามาพูดคุยช่วยเหลือบ้าง ตนจึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน เยียวยา หามาตรการแก้ไขป้องกันให้เป็นการถาวร รวมถึงจัดตั้งหน่วยงาน ทีมงานมาแก้ปัญหาเรื่องช้างป่าโดยเฉพาะ ไม่ใช่ช้างป่ามาก็มาช่วยไล่ให้พ้นๆ มาตรวจสอบความเสียหาย ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาอะไรเลย
ขณะที่พ่อค้า รับซื้อทุเรียน ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ปัญหาช้างป่าทำลายสวนทุเรียน มีเกือบทุกปี แต่ปีนี้ได้ยินมาเยอะมาก ไม่ใช่เฉพาะบริเวณนี้ ในพื้นที่ อ.เบตง และ หมู่บ้านอื่นของ อ.ธารโต ก็มี แต่ในพื้นที่ ม.2 และ ม.10 ของ ต.แม่หวาด ถือว่าหนักมาก มีชาวบ้านพูดให้ฟังแทบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ว่าเมื่อคืนช้างป่าลงสวนใคร บริเวณไหน ช้างป่าโขลงนี้ไม่ไปไหนอยู่แต่บริเวณนี้ พอไล่จากสวนนี้ก็ไปสวนโน้น และออกหากินทำลายต้นทุเรียนทุกคืน จนเหมือนบริเวณนี้เป็นที่หากินที่อยู่ของช้างไปแล้ว