พิจิตร-ชาวนาพิจิตรปลื้มโรงสีรับซื้อข้าวเปลือกราคาพุ่งสูงทะลุเกินหลักหมื่นไปแล้วแนวโน้มข้าวถุงอาจขยับขึ้นตาม
พิจิตร-ชาวนาพิจิตรปลื้มโรงสีรับซื้อข้าวเปลือกราคาพุ่งสูงทะลุเกินหลักหมื่นไปแล้วแนวโน้มข้าวถุงอาจขยับขึ้นตาม
https://youtu.be/jGIAN9zkWGc
วันที่ 4 สิงหาคม 2566 นายพิชัย เมืองมัจฉา พาณิชย์จังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การรับซื้อข้าวเปลือกนาปรังฤดูการผลิต 2566 ของผู้ประกอบการโรงสี ทีบีเอส ไรซ์มิลล์ เลขที่ 999 หมู่ 18 ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ทั้งนี้เพื่อตรวจดูมาตรฐาน ชั่ง-ตวง-วัด ระบบการจ่ายเงินของโรงสีที่เป็นจุดรับซื้อข้าวเปลือก โดยพบว่าวันนี้มีชาวนาในเขต อ.สามง่าม , อ.วชิรบารมี และจากจังหวัดข้างเคียงนำข้าวเปลือกใส่รถบรรทุกมาจำหน่ายที่โรงสี ทีบีเอส ไรซ์มิลล์ ซึ่งวันนี้เปิดราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้านาปีความชื้น 15% รับซื้อที่ราคา 12,000 บาท แต่ด้วยสภาพพื้นที่มีฝนตกทำให้ชาวนาต้องเกี่ยวสดนำข้าวเปลือกมาขายเมื่อวัดความชื้นก็จะมีความชื้นอยู่ประมาณ 20-25% ซึ่งก็จะได้ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,200 – 10,600 บาท ซึ่งถือว่าราคานี้เป็นราคาที่พุ่งขึ้นสูงตามระบบกลไกของตลาดที่สูงกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา 20-25 % จึงทำให้ชาวนายิ้มได้ เพราะขายข้าวได้ราคา
ในส่วนของ นายรัตน์ถกิต เคลือบมุข ผู้จัดการโรงสี ทีบีเอส ไรซ์มิลล์ กล่าวว่า ทางโรงสีให้ความมั่นใจกับเกษตรกรที่มาขายข้าวเปลือก ยืนยันได้ว่าระบบ ชั่ง ตวง วัด และการวัดความชื้นใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเที่ยงตรงได้มาตรฐานเพราะมีหน่วยงานของทางราชการมาตรวจอยู่เป็นประจำ ส่วนเรื่องการจ่ายเงินก็จ่ายเป็นเงินสดทันทีเมื่อเกษตรกรส่งมอบข้าวเปลือกให้กับโรงสีเสร็จสิ้นแบบหมูไปไก่มา ในส่วนเหตุผลที่ราคาขยับสูงขึ้นทะลุหลักหมื่น/ตัน นั้น ผู้จัดการโรงสี ทีบีเอส ไรซ์มิลล์ กล่าวว่า เป็นไปตามกลไกของตลาดโลก ซึ่งเกิดจากประเทศอินเดียประกาศงดส่งออกข้าวเพื่อกักเก็บผลผลิตไว้บริโภคภายในประเทศ
นอกจากนี้ก็เกิดจากผลผลิตภายในประเทศไทยหลายพื้นที่ประสบกับภาวะนาข้าวขาดแคลนน้ำ จึงทำให้ไม่ได้ผลผลิตให้ได้เก็บเกี่ยว รวมถึงนาข้าวในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรการปลูกข้าวก็ลดลงเนื่องจากเกษตรกรเปลี่ยนนาข้าวไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และไปทำสวนไม้ผลจึงทำให้ปริมาณข้าวเปลือกที่ป้อนเข้าสู่โรงสีมีน้อยลง ก็เป็นเหตุผลให้ราคาข้าวเปลือกขยับสูงขึ้นดังกล่าว อีกทั้งยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อราคาข้าวเปลือกขยับสูงขึ้นก็เป็นธรรมดาที่ราคาข้าวสารในช่วงหลังจากนี้ ราคาข้าวถุงก็อาจจะขยับขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องซื้อข้าวสารกักตุนแต่อย่างใด
ในส่วนของราคาข้าวเปลือกที่ขยับสูงขึ้นทะลุ 10,000-12,000 บาท นั้น ในฐานะที่เป็นโรงสีและเป็นผู้ซื้อข้าวมั่นใจว่าจากวันนี้ถึงสิ้นเดือน สิงหาคม 66 ราคาข้าวเปลืกจะไม่ลดลงต่ำกว่านี้ ดังนั้นชาวนาควรปล่อยให้ข้าวแก่เต็มที่แล้วค่อยเก็บเกี่ยวมาขายเพราะจะทำให้ได้ราคาสูง ไม่ควรเร่งเกี่ยวข้าวที่ยังแก่ไม่เต็มทีหรือที่เรียกว่าข้าวเขียวมาขาย เพราะเมื่อโรงสีนำไปบดเพื่อหาเปอร์เซ็นต์แป้งในเมล็ดข้าวแล้วมีเปอร์เซ็นต์น้อย สีออกมาก็เมล็ดแตก-หัก เป็นเหมือนข้าวท่อน ราคารับซื้อก็จะถูกตัดราคาลง ดังนั้นจึงขอให้ชาวนาซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตนเอง นาดี ข้าวดี ยืนยันว่าช่วงนี้ข้าวเปลือกขายได้ราคาดีแน่นอน
สิทธิพจน์ พิจิตร