สืบนครบาล รวบแฮมหัวโจก “แก๊งบุษราคัม” ลวงให้รักก่อนตบเอารถ พบเหยื่อไม่ต่ำกว่า 15 ราย
สืบนครบาล รวบแฮมหัวโจก “แก๊งบุษราคัม” ลวงให้รักก่อนตบเอารถ พบเหยื่อไม่ต่ำกว่า 15 ราย
“แก๊งบุษราคัม” สุดยอดแก๊งต้มตุ๋นอันดับต้นของประเทศไทย ที่มีแผนประทุษกรรมเล่นกับหัวใจเหล่าชายหนุ่มขี้เหงา ส่งนางนกต่อชื่อบุษราคัมฯ แอ๊วให้หนุ่มหลงรัก ก่อนอ้อนให้ใช้ชื่อทำสัญญาเช่าซื้อรถ ก่อนจะสร้างสถานะการกับพวกให้หนุ่มงุนงงและเชิดรถหนีเอาไปขาย ทิ้งให้หนุ่มๆ รับภาระผ่อนกุญแจรถต่อไป ล่าสุดอาละวาดพื้นที่ จ.ชลบุรี เหยื่อโผล่ไม่ต่ำกว่า 15 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาทล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รวบตัว “หัวโจก” มันสมองของขบวนการได้แล้ว เจ้าตัวตีบทแตกโกหกตาใส
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปอส.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร , ร.ต.อ. มนตรี เฉลิมวัฒน์ , ร.ต.อ. จิรศักดิ์ ว่องไว , ร.ต.อ. ชัยวิทย์ หาญญ์สุวรรณนทีวิทย์ , ร.ต.ท. อนันตชัย สัจจพงษ์ , ร.ต.ท. เดชาธร ชมศิริ , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 , สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว
น.ส.เดือนเพ็ญ หรือ “แฮม” อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชุมพล อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 384/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. 66
ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น”
พบประวัติต้องโทษคดีอาญา 2 คดี
1.วันที่ 19 มี.ค. 66 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น” พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง
2.วันที่ 9 ก.พ. 66 ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น” พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง
พฤติการณ์กล่าวคือ แก๊งบุษราคัม สุดยอดแก๊งต้มตุ๋นอันดับต้นของประเทศไทย กรรมวิธีการหลอกสุดแนบเนียน ยิ่งกว่าในละคร โดยแก๊งนี้มีแผนประทุษกรรมคือจะให้ สาวสวยรายหนึ่ง (ทราบภายหลังชื่อ น.ส.บุษราคัม) ตีสนิท “แสร้งรัก” กับเหล่าชายขี้เหงา และสานความสัมพันธ์จนกระทั่งมีความสนิทในระดับหนึ่งก่อนจะใช้ “ลูกอ้อน” ขอให้เหล่าชายขี้เหงา “ใช้ชื่อทำสัญญาเช่าซื้อรถ” ให้ โดยจะอ้างว่าตนติดแบล็คลิส ส่วนค่าเงินดาวน์และผ่อนชำระค่างวดตนจะรับผิดชอบเอง ซึ่งเหยื่อเห็นว่าเป็นเพียงแค่การใช้ชื่อทำสัญญา ไม่ได้เสียเงินใดๆ ประกอบกับอาการตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก ต่างหลงเชื่อดาวน์รถให้ และในวันนัดทำสัญญาเช่าซื้อรถ น.ส.บุษราคัม จะให้เพื่อนร่วมขบวนการอีก 3 คน มาสร้างสถานการณ์โดยทำทีแสดงเป็นญาติและช่วยกัน “ต้มตุ๋น” เหยื่อจนสุดท้ายเมื่อเหยื่อจ่ายเงินดาวน์รถเรียบร้อยแล้วทั้ง 4 คน ก็จะหายไปพร้อมกับรถที่พึ่งจะดาวน์ออกมาไปอย่าง งง-งง ทำให้สุดท้ายเหล่าชายขี้เหงาที่ตกเป็นเหยื่อต้องตกอยู่ในสภาพ “ผ่อนกุญแจ” เสียเงินไปฟรีๆทุกเดือน โดยแก๊งนี้ออกอาละวาดในพื้นที่ ภาคตะวันออก , ภาคกลาง และภาคตะวันตก โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ราย โดยล่าสุดในห้วงปี 2566 แก๊งนี้ได้ออกอาละวาดใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 2 ราย โดยเหยื่อทั้งสองรายได้พบกับขบวนการต้มตุ๋นนี้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ พูดคุยกันทำนองชู้สาวกับหญิงสาวซึ่งชื่อว่า น.ส.บุษราคัมฯ จากนั้นได้ถูกต้มตุ๋นให้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ กระบะ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สี่ประตู สีขาว ราคา 905,607.08 บาท ซึ่งสุดท้ายก็ถูกขบวนการนี้ต้มตุ๋นและเชิดรถไปในวันทำสัญญาเช่าซื้อ โดยตอนแรกยังตกอยู่ในอาการงุนงงแต่เมื่อเริ่มได้สติ ผู้เสียหายเริ่มติดใจสงสัยจึงนำชื่อและสกุลของผู้ต้องหาไปสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตจึงพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะนี้หลายคดี การกระทำของผู้ต้องหากับพวกซึ่งมีลักษณะเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ สร้างเหตุการณ์ขึ้นมาให้ผู้เสียหายตายใจ จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และได้แจ้งเบาะแสมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB” ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตรวจสอบแผนประทุษกรรมแล้วพบว่าแก๊งต้มตุ๋นแก๊งนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน มีรูปแบบการหลอกลวงที่แนบเนียน จึงได้ส่งชุด “สืบนครบาล” สืบสวนติดตามจนกระทั่งสืบทราบว่า น.ส.เดือนเพ็ญ อายุ 33 ปี เป็นหัวโจกของขบวนการ หรือคนคอยวางแผนในการปฏิบัติการให้กับแก๊งบุษราคัมฯ ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.เดือนเพ็ญฯ ในเวลาต่อมา กระทั่งในวันที่ 31 ก.ค. 66 พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุม น.ส.เดือนเพ็ญฯ ได้ในที่สุด โดยจับกุมได้ที่ 73/1 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชุมพล อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยจับกุมได้ขณะที่กำลังแพ็คกระเป๋าเพื่อเตรียมหลบหนี”
ในชั้นจับกุม น.ส.เดือนเพ็ญ จิตวิมลประเสริฐ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การ “วกไปวนมา” จับใจความไม่ได้โดยตีบทแตกโกหกหน้าตายอ้างว่า “ตนเองจบการศึกษาชั้น ปวช. จากโรงเรียนชื่อดังใน จ.ราชบุรี แต่ไม่ได้เรียนแต่เนื่องจากได้ตั้งครรถ์บุตรก่อน ปัจจุบันทำงานค้าขาย ในทางคดีนั้นตนไม่รู้เรื่องการลักรถของ น.ส.บุษราคัมฯ แต่อย่างใด และไม่รู้จักกันด้วย ส่วนเงินที่โอนกันไปมาระหว่างตนและบุษราคัม เป็นค่ายืมเงินจิปาถะทั่วไป ส่วนที่ไปเจอกับเหล่าเหยื่อในห้างนั้น น.ส.บุษราคัมฯ หลอกให้ตนเองไปเป็นเพื่อนโดยตนเองไม่ทราบเลยว่ามีการไปหลอกลวงคนอื่นๆ” หลังการจับกุมได้นำตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากข้อมูลของ น.ส.เดือนเพ็ญฯ ยังคงให้การวกวน ซึ่งเราคงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การแต่อย่างใด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนคนที่เคยตกเป็นเหยื่อหรือที่กำลังจะถูกแก๊งนี้หลอกลวง โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟสบุ๊ค สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น.”