ตำรวจ ปส.(NSB) ปฏิบัติการสกัดขบวนการค้ายา และปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่กว่า 67 จุดทั่วประเทศ ได้ของกลางเป็นยาบ้ากว่า 6.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 310 กก. ยึดทรัพย์กว่า 135 ล้านบาท
ตำรวจ ปส.(NSB) ปฏิบัติการสกัดขบวนการค้ายา และปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่กว่า 67 จุดทั่วประเทศ ได้ของกลางเป็นยาบ้ากว่า 6.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 310 กก. ยึดทรัพย์กว่า 135 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.สมกิตพุ่มวารี ผบก.ขส.พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้กวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติด รายใหญ่และรายย่อยให้หมดสิ้นโดยเร็ว ล่าสุดตำรวจ ปส.(NSB) สามารถจับกุมผู้ต้องหา 20 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 6.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 310 กก. และมีการเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น กว่า 67 จุด ยึดอายัดทรัพย์สินทั้งที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 135 ล้านบาท และเร่งขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เหลือต่อไป
รายแรก จากการขยายผลของตำรวจ บก.สกส. ในจับกุมเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่ จ.ลพบุรี พบว่ายังมีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นชาติพันธุ์ (เผ่าม้ง) ซึ่งมีพฤติการณ์การรับจ้างลำเลียงยาเสพติด ให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ทราบชื่อว่านายจำรัส กับพวก โดยจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทาง จ.เชียงราย นำไปส่งมอบให้กับลูกค้าทางพื้นที่ภาคกลาง จึงวางแผนจับกุม จนกระทั่งวันที่ 9 ก.ค.66 เวลาประมาณ 12.30 น. พบรถยนต์ยี่ห้อ FORD RANGER สีฟ้า ทะเบียน บพ 94XX พะเยา ใช้ในการซุกซ่อนและลำเลียงยาเสพติด โดยมีนายจำรัส เป็นผู้ขับขี่ และ รถยนต์ ยี่ห้อ HONDA MOBILIO สีขาว ทะเบียน 4 กพ 574 กทม. ใช้ในการคุ้มกัน/สำรวจด่าน โดยมี น.ส.ณกัญญาชนาภัทร และนางสุภาพ เป็นผู้ขับขี่ ตำรวจ ปส.ได้ติดตามรถทั้ง 2 คัน และสามารถจับกุม ได้ที่บริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ม.6 ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จากการตรวจค้นพบ ยาบ้า จำนวนประมาณ 3.9 ล้านเม็ด ได้ที่รถคันที่นายจำรัส ขับขี่ โดย น.ส.ณกัญชนาภัทร และนางสุภาพ รับว่าเป็นผู้ขับขี่รถนำสำรวจเส้นทาง จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลออกหมายจับผู้บุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ต่อไป
รายที่ 2 ตำรวจ ปส.3 ได้สืบสวนทราบว่าเครือข่ายของ น.ส.อัญชนิสา มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้า โดยผ่าน จ.นครสวรรค์ จึงทำการสืบสวนจับกุม ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 ตำรวจ ปส.3 ได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจค้น บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.10 น. ได้พบรถยนต์กระบะบรรทุกข้าวโพด ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน 3 ฒต 9xx กทม. ขับขี่เข้ามาบริเวณหน้าด่านตรวจ โดยมี น.ส.อัญชนิสา เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.บุญญิสา นั่งไปด้วย และแสดงอาการพิรุธ จึงได้เรียกตรวจค้น จากการสอบถามผู้ขับขี่แจ้งว่ารับข้าวโพดมาจาก จ.เชียงราย จะนำไปส่งที่ตลาดไทตำรวจชุดจับกุมสังเกตเห็นว่า ข้าวโพดไม่ได้เรียงทับถม และส่งกลิ่นเหม็น จึงได้นำรถยนต์คันดังกล่าวเข้าทำการเอ็กซ์เรย์ยาเสพติด ที่ตั้งอยู่ในด่านตรวจพยุหะคีรี ผลการเอ็กซ์เรย์และการตรวจค้นพบวัตถุสิ่งแปลกปลอมลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยม มากับข้าวโพดจึงได้นำรถรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจค้น ผลปรากฏว่าพบยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด โดยมีข้าวโพดปิดทับอำพรางไว้แล้วปิดคลุมด้วยผ้าใบสีเข้ม จากนั้นจึงจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน ปส.3 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
รายที่ 3 สืบเนื่องจาก ตำรวจ ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส. ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่านายตะวันหรือเปียว กับพวก มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนภาคอีสานเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียน ฮง-77XX กทม. เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ จึงได้ร่วมกันวางแผนการจับกุม วางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มนายตะวัน จะใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ จนกระทั่งวันที่ 18 ก.ค.66 เวลากลางคืน ต่อเนื่องวันที่ 19 ก.ค.66 พบรถคันเป้าหมายในเขตพื้นที่ จ.มหาสารคาม ขับมุ่งหน้ามุ่งหน้าไป จ.บุรีรัมย์ จนเข้าเขต จ.นครราชสีมา จึงได้สกัดจับกุมได้ที่บริเวณสถานีน้ำมันในพื้นที่ ต.หนองหัวแรต อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา โดยมีนายตะวันหรือเปียว (เป็นผู้ขับขี่) นางสาวพัณณิตา หรือแป้ง (นั่งคู่คนขับ) และมีนายมาโนช หรือดิว (นอนอยู่ด้านหลัง) พร้อมของกลางเป็นยาเสพติด ไอซ์ 300 กก. บรรจุในกระสอบ จำนวน 8 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ และอาวุธปืนไรเฟิล 1 กระบอก และปืนสั้น 1 กระบอก จากนั้นจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 4 ตำรวจ ปส.4 (นปส.ภูเก็ต) ได้สืบสวนขยายผลจากการตรวจยึดยาเสพติด ที่ส่งทางไปรษณีย์พัสดุภัณฑ์ ในภาคใต้ จนทราบว่านายเนติกร และ น.ส.พรนำภา มีพฤติการณ์ลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านทางไปรษณีย์พัสดุภัณฑ์ โดยใช้รถยนต์ ทะเบียน กอ 1XXX ภูเก็ต เป็นพาหนะ จึงได้ติดตามเฝ้าระวังบุคคลและรถยนต์คันดังกล่าว จนกระทั่งทราบว่า นายเนติกร และ น.ส.พรนำภา ได้ขับรถยนต์ ทะเบียน กอ 1XXX ภูเก็ต จะไปรับยาเสพติดที่ จ.สมุทรสาคร จึงประสานให้ตำรวจ ปส.4 ประจำด่านยานพาหนะชุมพร สกัดจับรถคันดังกล่าว ต่อมาวันที่ 7 ก.ค.66 ตำรวจ ปส.4 ประจำด่านยานพาหนะชุมพร สามารถสกัดจับกุมรถคันดังกล่าวได้ จากการตรวจค้น พบยาบ้าประมาณ 200 เม็ด และไอซ์ประมาณ 38 กรัม และพบสลิปการส่งพัสดุ จากการสอบถามนายเนติกร และ น.ส.พรนำภา รับว่าไปรับยาเสพติดที่ จ.สมุทรสาคร โดยพัสดุได้ถูกส่งให้กับลูกค้าพื้นที่ จ.ระนอง,จ.สุราษฎร์ธานี ,จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต ตำรวจ ปส.4 จึงขยายผลไปตรวจยึดพัสดุที่ศูนย์กระจายสินค้า บริษัท Flash Express จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 5 กล่อง ของกลางยาบ้า ประมาณ 160,000 เม็ด และ ไอซ์ 10 กก. จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.ปส.4 เพื่อดำเนินการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
รายที่ 5 ตำรวจ ปส.4 ได้ทำการสืบสวนพบว่า มีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคใต้ได้เดินทางไปรับยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางและจะนำส่งผู้รับในพื้นที่จังหวัดภาคใต้โดยใช้รถยนต์ ทะเบียน 3ขบ 4xxx กทม. เป็นพาหนะ และได้ทำการเปลี่ยนทะเบียนรถคันเดียวกัน เป็น กท 8xxx ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพบรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กท 8xxx ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณทางหลวงสาย 41 อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช จึงตั้งจุดสกัดบริเวณแยกหนองดี ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั่งวันที่ 15 ก.ค.66 รถยนต์เป้าหมาย ยังไม่เข้าจุดสกัด จากการสืบสวนติดตาม ทราบว่า รถคันดังกล่าวได้เปลี่ยนป้ายทะเบียน เป็นทะเบียน 3ขบ 4xxx กทม. และขับหลบหนีมุ่งหน้า อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจ ปส.4 จึงติดตามไปจนถึงพื้นที่ ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และพบรถคันดังกล่าว จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบยาบ้า 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะหลัง ทราบชื่อนายจนุมาศ เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.เบญจวรรณ นั่งข้างคนขับ จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสองรับว่าได้รับยาเสพติดมาจาก จ.สิงห์บุรี เพื่อนำส่งผู้รับที่ จ.สงขลา จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พงส.ปส.4 ดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ส่วนรายที่ 6 ก่อนการจับกุม ตำรวจ ปส.4 ทำการสืบสวนทราบว่า จะมีพัสดุบรรจุยาเสพติด ส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน(Kerry Express) จาก จ.เชียงราย ส่งไปยังผู้รับพื้นที่จังหวัดสงขลา จำนวน 1 กล่อง ตำรวจ ปส.4 จึงติดตามพัสดุ โดยประสานกับบริษัท Kerry Express สาขาเกาะยอ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา จากการตรวจสอบพัสดุ พบว่าหน้ากล่องระบุ ผู้ส่ง “ณัฐนันท์ ผู้รับ คุณเอกชัย ที่อยู่ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ระบุน้ำหนัก 16.350 กก. กำหนดส่งวันที่ 20 ก.ค.66” จากการตรวจสอบชื่อผู้ส่งและผู้รับในระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ไม่พบข้อมูลดังกล่าว ประกอบกับข้อมูลที่น่าเชื่อว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพัสดุจริง จึงได้ขอความร่วมมือให้เจ้าพนักงานบริษัท Kerry Express ตรวจสอบพัสดุดังกล่าว ผลการตรวจสอบ พบยาบ้าประมาณ 100,000 เม็ด จึงทำการบันทึกตรวจยึดของกลาง นำส่ง พงส.ปส.4 เพื่อดำเนินคดีและจะขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
นอกจากนี้ ในห้วงเดือน ก.ค.66 ตำรวจ ปส. ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น รวม 67 จุด ทั่วประเทศ ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี อุดรธานี ชลบุรี นครพนม เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ สงขลา ฯลฯ โดย บก.ปส. 3 ปิดล้อมตรวจค้น 31 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด 4 ราย ยึดอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ เช่น รถยนต์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่ากว่า 19 ล้านบาท และ บก.ปส.2 ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 36 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ยึดอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ ได้แก่ รถยนต์ 7 คัน จยย. 2 คัน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 5 แปลง ที่ดินพร้อมสวนยางพารา 1 แปลง โฉนดที่ดิน 9 ฉบับ บัญชีธนาคารยอดเงิน 1.1 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 116 ล้านบาท
สรุปผลการจับกุม 6 ราย และปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น มีการจับกุมผู้ต้องหา 20 คน ยึดของกลาง ยาบ้า 6.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 310 กก. ปิดล้อมตรวจค้นกว่า 67 จุด ยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 135 ล้านบาท
ทั้งนี้ตำรวจ ปส.(NSB) จะสอบสวนเพื่อขย¬ายผลหาผู้สั่งการขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป ขณะที่ยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้นพนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส.,กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป