นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานพิธีเปิดการแสดงโขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์ “ชุดหนุมานชาญกำแหง” แสดงโดยคณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานพิธีเปิดการแสดงโขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์ “ชุดหนุมานชาญกำแหง”
แสดงโดยคณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง
วันเสาร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม 2566 เวลา 19.00 น. ณ บริเวณสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้เข้าร่วมชมโขนพระราชทาน ในครั้ง ผู้แทนสำนักพระราชวัง นายไพศาล ล้อมทอง อธิบดีกรมกิจการพิเศษ สำนักพระราชวัง
นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง
คุณนฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง
นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช
นายกเทศบาลทุ่งสง
นายกเทศบาลปากพนัง
นายกเทศบาลปากพูน
หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่
และพี่น้องประชาชนจังหวัด นครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระมหากรุณาให้คณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง มาทำการแสดงที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ นับเป็นความโชคดีอย่างยิ่ง ของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับโอกาสในการชมอย่างใกล้ชิด ได้สัมผัสกลิ่นอายของนาฏยกรรมโบราณ และเป็นการร่วมสืบสานจารีต ธำรงเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย
“โขน” ถือว่าเป็นสุดยอดศิลปะการแสดงชั้นสูง และได้รับการประกาศ
จากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก
ได้ประกาศให้ขึ้นบัญชีการแสดงโขนในประเทศไทย “Khon masked dance drama
in Thailand” ในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ
อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน พระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงศาสนาและศิลปวัฒธรรม รวมทั้งพระราชทานให้คณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง มาแสดงที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่สาม หลังจาก
ที่ประเทศผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ (โควิค-๑๙) นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่มีต่อชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง
ขอบพระคุณ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานหลักในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ให้การสนับสนุน
การจัดการแสดงโขนพระราชทานในค่ำคืนวันนี้ และคืนพรุ่งนี้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะ
โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งมีท่านนฤมล ล้อมทอง เป็นหัวเรือใหญ่ ที่ได้ทุ่มเทช่วยเหลือในการจัดการแสดงโขนพระราชทานในครั้งนี้ ตลอดจนคณะผู้ดำเนินการจัด
การแสดงโขนพระราชทาน คณะผู้บริหาร บุคลากร เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ทุกองค์กร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน
และขอถือโอกาสนี้ เปิดการแสดงโขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์
“ชุด หนุมานชาญกำแหง” แสดงโดยคณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน จะได้รับความสุข
ความสำราญ จากการแสดงโขนพระราชทานในครั้งนี้ และจะช่วยกันในการเป็นผู้ช่วย
สืบสานวัฒนธรรมอันเป็นมรดกที่ล้ำค่ายิ่งของชาติไทยของเราให้ดำรงคงอยู่ตลอดกาลนาน….
ชมการแสดง #โขนพระราชทาน “ชุดหนุมานชาญกำแหง”
แสดงโดย คณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ในระหว่างวันเสาร์ที่ 22- วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2566 เวลา 19.00 น. ณ สนามหน้าเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
.
“หนุมานชาญกำแหง” กับเรื่องราวตั้งแต่กำเนิดหนุมานจนช่วยพระรามรบกับทศกัณฐ์จนชนะและได้รับประทานสมญาศักดิ์เป็นพระยาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพรรธพงศา
พบการแสดงอันวิจิตรงดงามตระการตาและถูกต้องตามขนบจารีตแบบแผน ดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับด้วย การพากย์-เจรจาและเพลงหน้าพาทย์แบบโบราณ ชมความพิเศษสวยงามของเครื่องแต่งกายที่วิจิตรตามขนบเดิม ซึ่งสร้างสรรค์เพื่อการแสดงครั้งนี้โดยเฉพาะ สนุกสนานตื่นเต้นไปกับลีลากระบวนท่าของลิงที่หาชมยากยิ่ง ในปัจจุบัน ชมอิทธิฤทธิ์ของหนุมานในรูปแบบการต่อสู้ 1 ต่อ 8 ลีลาการจับนางใต้สมุทร และกระบวนทัพ
#เรื่องย่อ หนุมานชาญกำแหง พระอิศวรตรัสใช้ให้พระพายนำเทพอาวุธ และพลังแห่ง พระองค์ ไปซัดใส่ปากนางสวาหะ ที่ถูกนางอัจนาผู้เป็นแม่สาป ให้ยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลมอยู่ที่เขาพนมจักรวาล เพื่อที่จะ ให้เกิดวานร เพื่อรอเป็นข้าทหารของพระราม และให้นามว่า หนุมาน
ครั้นถึงวันอังคาร เดือนสาม ปีขาล นางสวาหะได้ให้กำเนิด หนุมานเป็นวานรเผือก มีสี่หน้า แปดมือ มีกุณฑลขนเพชร เขี้ยวแก้ว หาวเป็นดาวเดือนตะวัน นางสวาหะ ได้สั่งให้ หนุมานเข้าเป็นข้าทหาร ของผู้ที่เห็นกุณฑลขนเพชรเขี้ยวแก้ว ในกายหนุมาน เพราะผู้นั้นคือพระนารายณ์อวตาร ลงมาเป็น พระราม หนุมานเที่ยวไปในอากาศ เห็นสวนพระอุมา จึงเข้าไปเก็บกินประสาลิง พระอุมาโกรธสาปให้อ่อนกำลัง ต่อเมื่อพบพระรามแล้ว ลูบหลังแต่หัวจรดหางสามครั้ง จึงจะพ้นสาปและได้พลังกลับคืน
หนุมานได้ไปเป็นข้าทหารพระราม และอาสาสืบหาทางไป กรุงลงกา พระรามฝากให้นำผ้าสไบ และแหวนไปถวาย นางสีดา และบอกความลับ เรื่องที่พระองค์ทรงสบพระเนตรกัน เมื่อครั้งไปยกมหาธนูโมล
ถ้านางสีดาไม่เชื่อเพราะนางไม่รู้จักหนุมาน หนุมาน ไปพบ นางสีดา นางกำลังจะผูกคอตายจึงเข้าช่วยไว้ และเชิญให้นาง นั่งบนฝ่ามือ กลับไปหาพระราม นางสีดาเกรงจะถูกติฉิน ว่ายักษ์ลักมาลิงพาไป จึงให้หนุมานกลับมาเชิญพระราม ข้ามสมุทรไปช่วยนาง หนุมานรับคำ ก่อนจะกลับ ได้ฆ่าสหัสกุมารลูกทศกัณฐ์ ๑,๐๐๐ ตนตายสิ้น
หนุมานอาสาพระรามไปลวงเอาดวงใจทศกัณฐ์ ที่ถอดฝากไว้ กับพระฤษีโคบุตร และขอให้พระฤษี พาไปฝากตัวกับทศกัณฐ์ พระฤษีต้องมนต์ หนุมานมอบกล่องดวงใจทศกัณฐ์ให้ ทศกัณฐ์ถึงคราวชะตาขาด ทศกัณฐ์หลงกลรับหนุมานเป็นลูก เมื่อออกรบ พระรามแผลงศรพรหมาสตร์สังหารทศกัณฐ์ หนุมานขยี้ดวงใจให้ทศกัณฐ์สิ้นชีวิต พระรามจึงชนะศึก และแต่งตั้งให้หนุมานเป็น พระยาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพรรธ พงศา ได้ไปครองเมืองนพบุรี
ฉากการแสดงโขน
#ฉากที่ ๑ กำเนิดหนุมานชาญกำแหง
พระพายได้รับบัญชาจากองค์พระอิศวร ให้นำพลังแห่ง พระองค์ และเทพอาวุธอันได้แก่ จักร คทา และตรี ไปซัดใส่ปากนางสวาหะ ที่ถูกนางอัจนาสาป ให้ยืนตีนเดียว เหนี่ยวกินลมอยู่ ยังเขาพนมจักรวาล เพื่อให้เกิดวานร ผู้มีฤทธิ์ อันจะเป็นข้าทหารของพระราม และประทานนามว่า “ หนุมาน ” หนุมานถือกำเนิด โดยเผ่นออกมาจากปาก นางสวาหะ นางสวาหะสั่งหนุมานไว้ว่า เมื่อพบผู้ที่มองเห็น รูปกายที่มีกุณฑล ขนเพชร เขี้ยวแก้ว ผู้นั้นคือพระนารายณ์ อวตารมาเป็นพระราม ให้ถวายตัวเป็นข้าทหาร
#ฉากที่ ๒ วานรอ่อนแรงด้วยต้องสาป
หนุมานเมื่อลามารดามาแล้ว ก็เที่ยวไปในอากาศด้วย พลังฤทธิ์ ไปพบสวนพระอุมาก็เข้าไปหักผลไม้กิน และเล่นสนุกด้วยยังเยาว์วัย พระอุมามาพบก็โกรธสาป ให้อ่อนกำลังฤทธิ์ หนุมานพอรู้ว่าเป็นสวนพระอุมา ก็เข้าไป ขออภัย พระอุมาเกิดสงสารจึงผ่อนผันให้ โดยเมื่อใดที่หนุมาน พบพระนารายณ์ ซึ่งอวตารมาเป็นพระราม และลูบหัวจรดหาง หนุมานสามครั้ง กำลังฤทธิ์หนุมานก็จักคืนมาดังเดิม
#ฉากที่ ๓ ขุนทหารรับอาสาสืบหนทาง
เมื่อมาอยู่กับพระรามตามที่มารดาสั่งไว้ และได้ฤทธิ์กำลัง กลับคืนมาตามคำพระอุมาแล้ว หนุมานก็รับอาสาพระราม ที่จะเป็นผู้สืบหาหนทางไปกรุงลงกา
#ฉากที่ ๔ ช่วยสีดา – ล้างสหัสกุมาร
เมื่อไปถึงกรุงลงกา หนุมานเข้าไปพบหญิงนางหนึ่ง กำลังจะผูกคอตาย เมื่อรู้ว่าเป็นนางสีดา หนุมานเข้าไปช่วยไว้ และอาสาพานางกลับไปโดยให้นั่งไปบนผ่ามือ นางสีดาเกรง จะมีผู้ติฉินนินทา ด้วยยักษ์ลักนางมาแต่จะให้ลิงพากลับไป นางให้หนุมานกลับไปทูลเชิญพระราม เสด็จข้ามสมุทร มารับ ตัวนาง ก่อนหนุมานจะกลับได้เข้าหักสวน และฆ่าสหัสกุมาร ลูกของทศกัณฐ์ จนตายทั้งหมด
#ฉากที่ ๕ ขุนทหารถมศิลา จับมัจฉาอรทัย
พระรามให้เหล่าทหารจองถนน ถมสาครข้ามไปกรุงลงกา แต่ถมศิลาลงไปเท่าใดก็ไม่ตื้นเป็นถนนสักที หนุมานลงไปดู ใต้น้ำ พบนางสุพรรณมัจฉา บัญชาเหล่าบริวารปลา ให้คาบก้อนศิลาไปทิ้งตามคำสั่ง ของทศกัณฐ์ ที่จะขัดขวาง การสร้างถนนครั้งนี้ หนุมานเข้าจับนางสุพรรณ มัจฉา และได้นางเป็นเมีย บอกนางสุพรรณมัจฉา ให้สั่งบริวาร นำศิลามาทิ้งที่เดิม การจองถนนจึงแล้วเสร็จ กองทัพพระราม ข้ามฝั่งไปลงกาได้
#ฉากที่ ๖ ลวงเอาดวงใจทศกัณฐ์
หนุมานอาสาพระรามมาลวงเอาดวงใจทศกัณฐ์ ที่ฝากไว้กับ พระฤษีโคบุตร และแสร้งลวงให้พระฤษีพาไป ฝากตัวกับ ทศกัณฐ์ และชวนทศกัณฐ์ออกไปรบกับ พระรามกลางสนาม
#ฉากที่ ๗ กุมภัณฑ์พ่ายแพ้หนุมาน
เมื่ออกไปรบกลางสนาม หนุมานก็เหาะขึ้นตามที่นัด ไว้กับ องคต เพื่อเอากล่องดวงใจที่ลวงมาได้มาส่งให้ ทศกัณฐ์เห็นว่า เสียรู้หนุมาน ทั้งอาย ทั้งโกรธ ยกทัพกลับเข้าลงกา โดยจะ ออกมาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งในวันหน้า
#ฉากที่ ๘ ขุนทหารครองพารา
เมื่อเสร็จศึกกรุงลงกา หนุมานได้รับบำเหน็จจากพระราม ให้สมญาศักดิ์ เป็นพระยาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพรรธพงศา ได้ครองกรุงอยุธยากึ่งหนึ่ง แต่การครองกรุงอยุธยาสูงเกิน ศักดิ์ไป หนุมานถวายคืน พระรามจึงประทานเมืองนพบุรีให้ กับหนุมาน
#โขนพระราชทาน
#บริษัทมหานคร เอ็นเตอร์เทนเม้นจำกัด
#บริษัท สตาร์ไลท์ แอนด์ซาว์ จำกัด
เขียนข่าว: ผศ.ดร พิมพาภรณ์ วงศ์เตชะนนท์
เสนอข่าว: ศุภชัย เพชรยศ
ภาพ : Cr Traiwat Tresatayapan
Cr.อดิศักดิ์ เดชสถิตย์ ถ่ายทำ/ตัดต่อ
และชมรม ถ่ายภาพจังหวัดนครศรีธรรมราช