23/12/2024

กาฬสินธุ์ชาวบ้านผวาเจอรอยตีนคล้ายสัตว์ป่าพันธุ์ดุ “เสือเหลือง”เจ้าป่าภูพาน

27831

ชาวบ้านดงตาว ตำบลหนองช้าง อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ และชาวบ้านหลายตำบล ในเขตเทือกเขาภูพาน ที่ทำนา ทำไร่ และเข้าป่าหาเก็บเห็ด ตกอยู่ในอาการหวาดผวา หลังพบรอยตีนสัตว์ขนาดใหญ่ บนผืนทรายบริเวณพื้นที่จะปลูกมันสำปะหลังจำนวน 20 รอย ลักษณะคล้ายรอยตีนเสือ มี 4 นิ้ว เชื่อเป็นรอยตีนเสือโคร่ง เผยมีคนเคยพบเห็นในเวลากลางคืน และที่ผ่านมาพบว่าสุนัขของชาวบ้านหายไปหลายตัว เชื่อว่าถูกเสือตัวนี้ตะปบไปกิน ขณะที่ฝ่ายปกครองอำเภอสามชัย เตรียมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง


วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ว่ามีชาวบ้านดงตาว หมู่ 7 ต.หนองช้าง อ.สามชัย พื้นที่ติดต่อกันกับ ต.สำราญ ส่งคลิปและภาพนิ่งการพบเจอรอยตีนคล้ายรอยตีนของสัตว์ชนิดหนึ่งมาให้ดูทางไลน์ ระบุว่าเป็นรอยตีนของเสือโคร่ง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเสือเหลือง โดยทั้งคลิปและภาพนิ่งนั้น มีทั้งรอยตีนสัตว์และภาพของชาวบ้าน 2-3 คน ที่มุงดูรอยตีนบนผืนทรายด้วยความตื่นเต้น ขณะที่บางคนใช้อุ้งมือและฝ่ามือวัดขนาดความใหญ่ของรอยตีนนั้น โดยพบว่ามีขนาดเท่ากำปั้นหรือฝ่ามือผู้ใหญ่ หรือกว้างยาวประมาณ 4×6 นิ้ว ทั้งนี้ ชาวบ้านกลุ่มนี้ยืนวันว่าเป็นรอยตีนเสือเหลืองแน่นอน


นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ กล่าวว่า คลิปและภาพนิ่ง ลักษณะคล้ายรอยตีนเสือหรือที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยตีนเสือเหลืองดังกล่าว ถูกแชร์มาจากชาวบ้านที่เป็นเพื่อนในไลน์ของตน เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.66) โดยยืนยันว่าเป็นรอยตีนเสือเหลือง ซึ่งพบตรงบริเวณพื้นที่จะปลูกมันสำปะหลังของชาวบ้าน ห่างจากบ้านดงตาวประมาณ 4 กม.ซึ่งอยู่เขตติดต่อกับเทือกเขาภูพาน โดยรอยตีนและส่วนของนิ้วที่พบซึ่งเป็นหลุม จมลงไปในพื้นทรายทั้งชัดและไม่ชัดเจนจำนวน 20 รอย หลังจากพบรอยตีนคล้ายรอยตีนเสือแล้ว ก็นำไปพูดบอกต่อกันในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านอยู่ในอาการผวา โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีที่ไร่ที่นาอยู่ในบริเวณนั้น รวมทั้งชาวบ้านที่เข้าป่าไปหาเก็บเห็ด เนื่องจากกลัวว่าอาจจะถูกเสือเหลืองจู่โจมได้ เพราะใครๆก็รู้กันดีว่าขึ้นชื่อว่าเสือนั้นดุร้าย สามารถทำร้ายมนุษย์หรือสัตว์ชนิดอื่นได้ทุกเวลา


นายกอบโชคชีพ กล่าวอีกว่า เมื่อชาวบ้านเข้าใจกันว่าเป็นรอยตีนเสือเหลือง และมีชาวบ้านบางคนออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา เคยเห็นเสือเหลืองตัวขนาดใหญ่สูงเท่าลูกวัวรุ่น ลงจากเทือกเขาภูพานมาหากินบริเวณเชิงเขาในเวลากลางคืน และนอกจากนี้ในช่วงเดียวกันยังพบว่าสุนัขของชาวบ้าน ชาวสวน ที่เอาไปเลี้ยงไว้เฝ้าที่พักใกล้เชิงเขา และตามเถียงนาเขตบ้านดงตาว หายไปหลายตัว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของเสือเหลืองเจ้าป่าตัวนี้ตะปบไปกินแน่นอน ดังนั้น หลังจากพบรอยตีนคล้ายรอยตีนเสือ โดยชาวบ้านปักใจเชื่อว่าเป็นรอยตีนเสือเหลืองตัวนั้น ทำให้ชาวบ้านอยู่ในอาการหวาดผวา แทบไม่กล้าไปทำมาหากินและเข้าป่าหาเก็บเห็ด จึงบอกผ่านตนแจ้งไปที่ฝ่ายปกครองอำเภอสามชัย เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อชาวบ้านจะได้สบายใจ


ด้านนายครรชิต บัวกมล ปลัดอาวุโสอำเภอสามชัย กล่าวว่าหลังได้รับแจ้งจากนายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญแล้ว ได้รายงานนายชนาวุธ คุณวุฒิ นายอำเภอสามชัย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยจะนำเจ้าหน้าที่ และกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะเข้าไปตรวจดูรอยตีน สอบถามชาวบ้าน และลาดตะเวนหาร่องรอย เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ชาวบ้าน ที่มีที่ทำกินอยู่บริเวณนั้น รวมทั้งชาวบ้านที่จะเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดด้วย


นายครรชิต กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องที่ได้รับแจ้ง กรณีพบรอยตีนสัตว์ป่าหรือที่ชาวบ้านยืนยัน ว่าเป็นรอยตีนเสือเหลืองหรือเสือโคร่งนั้น เป็นครั้งแรกที่ได้รับแจ้ง ส่วนว่าจะเป็นรอยตีนเสือจริงหรือไม่ หรือเป็นรอยสัตว์ชนิดใด ตอนนี้ไม่สามารถยืนยันได้ จนกว่าจะมีการค้นพบเจ้าของรอยตีนนั้น หากเจ้าของรอยตีนเป็นเสือเหลือจริง หรือเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่น ก็มีทางเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะเทือกเขาภูพานมีพื้นที่กว้างใหญ่ อยู่ในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ และติดต่อกับ จ.สกลนคร ในช่วงที่ผ่านมาประสบภัยแล้ง อาหารในป่าภูพานขาดแคลน สัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่ จึงอาจจะลงจากเขาภูพานมาหากินใกล้หมู่บ้าน จึงทำให้ชาวบ้านเห็น โดยทิ้งร่องรอยตีนดังกล่าวไว้ ทั้งนี้ ก็จะได้มีการพิสูจน์กันต่อไป


อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้รับแจ้งจากชาวบ้านดงตาวว่า จุดที่พบรอยตีนเสือเหลือง ซึ่งเป็นบริเวณจะทำแปลงปลูกมันสำปะหลังของชาวบ้านดังกล่าว ได้ถูกเจ้าของที่ดินนำรถไถมาไถพรวน เพื่อเตรียมยกร่องปลูกมันสำปะหลังแล้ว จึงไม่มีหลักฐานที่ปรากฏบนพื้นทรายให้ตรวจสอบ นอกจากภาพและคลิปที่เหลือไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น

 

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป