สืบนครบาลแกะรอยตามรวบ “แอปเปิ้ล จังหาร” ฉลาดแกมโกง-หัวใส สับขาหลอกบัญชี เหยื่อหลงกลสูญกว่า 2 ล้าน
สืบนครบาลแกะรอยตามรวบ “แอปเปิ้ล จังหาร” ฉลาดแกมโกง-หัวใส สับขาหลอกบัญชี เหยื่อหลงกลสูญกว่า 2 ล้าน
วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ร่วมจับกุม นางสาวสุนันทา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 8 ตำบลจังหาร อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.94/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ฉ้อโกงโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.146/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ฉ้อโกงประชาชนแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ 103/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาและฉ้อโกงผู้อื่น
พฤติการณ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบนโยบายให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางสาวสุนันทา หรือแอปเปิ้ล คำมูลทา ซี่งมีพฤติการณ์หลอกเหยื่อให้โอนเงิน โดยทำทีเปิดร้านค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านช่องทางอินสตราแกรม และเพจเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อติดต่อขอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม คนร้ายจะส่งเลขที่บัญชีธนาคารของร้านค้าอื่น (ซึ่งเป็นอีกกลุ่มผู้เสียหาย) เช่น ร้านเสริมสวย เครื่องสำอาง หรือ พวงมาลัยเงินสด ที่คนร้ายต้องการซื้อหรือใช้บริการ ไปให้เหยื่อกลุ่มที่ต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม
เมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้บัญชีร้านค้านั้นๆแล้ว คนร้ายจะขอสลิปโอนเงินแล้วนำไปส่งให้ร้านค้า โดยแจ้งกับร้านค้าว่า พี่สาว หรือ พี่ชาย เป็นคนโอนเงินไปให้แล้ว เมื่อร้านค้าได้เงินเสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งสินค้าให้คนร้าย โดยเหยื่อกลุ่มที่โอนเงินเพื่อสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ได้รับสินค้าจากคนร้ายและโดนบล็อคช่องทางการติดต่อ
จึงไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีร้านค้า เป็นเหตุให้มีกลุ่มผู้เสียหายเกิดขึ้น 2 กลุ่ม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับคดีติดต่อไปทางเจ้าของบัญชีปลายทาง ที่เป็นกลุ่มที่คนร้ายต้องการซื้อหรือใช้บริการ จึงทราบเรื่องว่าโดนเอาหมายเลขบัญชีไปใช้หลอกให้ลูกค้าโอนเงิน จึงเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อทางร้าน ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นบัญชีคนโกง ซึ่งกรรมวิธีนี้คนร้ายจงใจ “สับขาหลอก” เพื่ออำพลางมิให้เจ้าหน้าที่สืบสาวถึงตนเองได้ ด้วยความ “ฉลาดแกมโกง” ของมิจฉาชีพรายนี้ พบเหยื่อเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อย่างเห็นแต่สินค้าที่มีราคาถูกกว่าราคาตามท้องตลาดที่ควรจะเป็น ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.
//