กาฬสินธุ์สันนิบาตสหกรณ์เล็งเปิดตลาดขายข้าวในเรือนจำ
ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ให้ความรู้กฎหมายสินเชื่อ และกฎหมายติดตามหนี้ที่ควรรู้แก่ประธานและสมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานและการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิผล พร้อมเล็งเปิดตลาดจำหน่ายผลผลิตข้าวในเรือนจำ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กว้างขวางขึ้น
วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรกมลาไสย จำกัด อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ “กฎหมายสินเชื่อ และกฎหมายติดตามหนี้ที่ควรรู้ โดยมี พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ประธานสันนิบาตสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายมานิจ ศรีวงศ์ราช สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ นางสาวจันทรา นรศาสตร์ หัวหน้าหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์กาฬสินธุ์ และผู้เข้าร่วมการอบรมซึ่งเป็นแทนของสหกรณ์ต่างๆใน จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 130 คนร่วมอบรม
พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ประธานสันนิบาตสหกรณ์จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สหกรณ์ก่อตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ อุดมการณ์สหกรณ์ คือ “ความเชื่อร่วมกันที่ว่าการช่วยตนเอง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามหลักการสหกรณ์ ซึ่งจะนำไปสู่การกินดี อยู่ดี มีความเป็นธรรม และสันติสุขในสังคม” ซึ่งในการบริหารงานสหกรณ์ จะต้องเกี่ยวข้องกับการบริการสินเชื่อ เงินฝากแก่สมาชิกสหกรณ์ การเรียกเก็บเงินต่างๆ จากสมาชิกหรือผ่านต้นสังกัด ซึ่งผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารงานสหกรณ์ จะต้องคำนึงถึงกฎหมายและพระราชบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกฎหมายและพระราชบัญญัติต่างๆ ในปัจจุบันได้มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย และความสัมพันธ์กับบริบทของสังคม
พล.ต.ต.มนตรีกล่าวอีกว่าโครงการอบรม หลักสูตร “กฎหมายสินเชื่อ และกฎหมายติดตามหนี้สหกรณ์ควรรู้” ได้รับงบสนับสนุนจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ใช้เวลาอบรม 1 วัน เพื่อให้ผู้เข้าอบรม มีความรู้ ความเข้าใจถึงกฎหมายและพระราชบัญญัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและแนวทางการปฏิบัติงานภายในสหกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานและการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิผลต่อไป
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการอบรมให้ความรู้กฎหมายสินเชื่อ และกฎหมายติดตามหนี้ที่ควรรู้ แก่ประธานและสมาชิกสหกรณ์ในครั้งนี้ ยังมีนโยบายในการขับเคลื่อนภารกิจของสหกรณ์ เพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและเกษตรกร โดยที่ผ่านมามีการประชุม หารือ กับส่วนราชการและฝ่ายการเมือง เพื่อกำหนดทิศทางในการส่งเสริม สนับสนุน ทั้งกระบวนการผลิต การแปรรูป การจำหน่าย และตลาดรองรับผลผลิตภาคการเกษตร เช่น ข้าว ที่ควรจะเพิ่มช่องทางการตลาดให้กว้างขวางขึ้น นอกเหนือจากการจัดงานแสดงสินค้าทั่วไป โดยมีการนำไปจำหน่ายที่เรือนจำ เพื่อเปิดตลาดใหม่ สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากกว่าที่ผ่านมา