จับพ่อเฒ่าสุดแสบ แอบอ้างเบื้องสูง หลอกลงทุน “เงินบุญ” เหยื่อหลงกล สูญไปกว่า 5 แสน พบมีเหยื่ออีกหลายรายที่ตกหลุมพราง
จับพ่อเฒ่าสุดแสบ แอบอ้างเบื้องสูง หลอกลงทุน “เงินบุญ” เหยื่อหลงกล สูญไปกว่า 5 แสน พบมีเหยื่ออีกหลายรายที่ตกหลุมพราง
วันที่ 6 กรกฎาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3/1 ร่วมกันจับกุม นายเสน่ห์ อายุ 71 ปีที่อยู่ 26 หมู่ 3 ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2026/2566 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ข้อหา “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง, หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”
พฤติการณ์ นายเสน่ห์ฯ แอบอ้างเบื้องสูงเพื่อหลอกลวงให้คนมาร่วมลงทุนโดยใช้ชื่อว่า “ลงทุนเงินบุญ” โดยอ้างว่า มีเงินจำนวนหนึ่งที่เบื้องสูงต้องการจะแจกจ่ายให้กับประชาชนคนไทย แต่จะต้องร่วมลงทุนกับตนจำนวน 1,000 บาท หลังจากนั้นภายใน 30 วัน จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 10 ล้านบาท ผู้เสียหายสนใจจึงได้ร่วมลงทุนไป ต่อมา เมื่อถึงเวลาตามที่ตกลงจ่ายเงินค่าตอบแทนนั้น ผู้ต้องหาได้บ่ายเบี่ยงการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่า เบื้องบนยังไม่อนุมัติเงินให้ หรือบางครั้งแจ้งว่าจะทำการเปลี่ยนระบบการจ่ายเงิน จึงต้องขยายระยะเวลาการจ่ายผลตอบแทน และยังออกอุบายเชิญชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเพิ่ม โดยบอกว่าจะจัดโปรโมชั่นให้เป็นกรณีพิเศษ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงร่วมลงทุนเพิ่มอีกจำนวนหลายครั้ง แต่สุดท้ายผู้เสียหายก็ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ จนสูญเงินไปกว่า 500,000 บาท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีและได้มีการออกหมายจับไว้
อีกทั้งยังทำให้ ผู้เสียหายเกิดความเครียดเป็นอย่างมากและส่งผลให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตย่ำแย่ จนญาติของผู้เสียหายต้องพาผู้เสียหายเข้าพบจิตแพทย์ เพื่อทำการรักษา และจากการสอบถามผู้เสียหายแจ้งว่า นายเสน่ห์ได้ชักชวนลงทุนในลักษณะนี้กับประชาชนจำนวนหลายราย แต่คนส่วนใหญ่ยังเชื่อในคำหลอกลวงของนายเสน่ห์ จึงยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด
ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ไม่เคยหลอกลวงผู้ใด และผู้ต้องหาประกอบอาชีพขายสารเคมีเกษตร เช่น ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย โดยเปิดร้านอยู่หน้าบ้านของตนเอง
จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวนสน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
//