ตำรวจไซเบอร์ จับเครือข่ายหลอกลงทุนเทรดคริปโตรายที่ 13 ตุ๋นเหยื่อสูญเงินเกือบ 9 ล้าน .
ตำรวจไซเบอร์ จับเครือข่ายหลอกลงทุนเทรดคริปโตรายที่ 13 ตุ๋นเหยื่อสูญเงินเกือบ 9 ล้าน
.
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้มีการกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีบนสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
. สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับการประสานงานจาก สภ.เมืองภูเก็ต กรณีมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงจากการลงทุน “BITMOXA” ซึ่งเป็นกลุ่มคนร้าย มีการวางแผนเป็นขบวนการโดยการหาเหยื่อผู้เสียหาย ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ และได้ออกอุบายให้ผู้เสียหาย เข้ามาพูดคุยช่องทางไลน์แล้วหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุน โดยมีผลกำไรตอบแทนสูง โดยส่งเว็บไซต์ Bitmoxa.com ให้ผู้เสียหายติดตั้งแอพพลิเคชั่นไว้ในโทรศัพท์ทำการสมัครลงทุน ในการหลอกลงทุนครั้งแรกจะได้กำไรและสามารถถอนเงินออกจากระบบได้อย่างง่ายดาย จนทำให้ผู้เสียหายเชื่อมั่นว่าสามารถถอนเงินออกจากระบบได้จริง เป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงและง่าย และสบาย ได้กำไรดี โดยผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุน ครั้งแรก เป็นเงินจำนวน 60,000 บาท และสามารถถอนเงินทุนพร้อมกำไร ผู้เสียหายหลงเชื่อ จนลงทุนกว่าอีกจำนวน 6 ครั้ง ความเสียหายรวม 8.7 ล้านบาท และต่อมาไม่สามารถทำการถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงคดี ในระบบแจ้งความออนไลน์ ที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ พบว่ายังมีคดีความเชื่อมอีกจำนวน 7 Case ID มีผู้เสียหายที่อยู่ในจังหวัดภาคกลาง จังหวัดในภาคอีสาน และจังหวัดในภาคใต้ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนร้ายมีเจตนาหลอกลวงประชาชน ซึ่งคดีนี้มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีแล้ว 12 ราย และผู้ต้องหาคดีนี้เป็นรายที่ 13 จากทั้งหมด 16 ราย
.
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เจ้าพนักงานงานตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า นายสำรอง อายุ ๔๙ ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ ได้หลบหนีหมายจับไปอยู่จังหวัดนครปฐม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบนายสำรองฯ อยู่บริเวณหน้า สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม จึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต พร้อมแจ้งให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่าได้เปิดบัญชีให้กลุ่มคนร้ายนำไปใช้หลอกลวงผู้อื่นจริง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5,
พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม ผกก.1 บก.สอท.5, ได้สั่งการ พ.ต.ท.หญิงธรา เมืองแก้ว สว.กก.1 บก.สอท.5, พ.ต.ต.ณาณศักดิ์ บุญสนอง สว.กก.1 บก.สอท.5, ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง รอง สว.กก.1 บก.สอท.5,
ร.ต.ต.ฐัฒพงษ์ มุสิเกตุ, ร.ต.ต.ชวลิต นะวะกะ รอง สว.กก.1 บก.สอท.5