แม่ฮ่องสอน-8 ผู้ประกอบการแม่ฮ่องสอน แจ้งจับสาวพนักงานราชการป่าไม้ ปลอมแปลงเอกสารหลอกซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฉ้อโกงมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
แม่ฮ่องสอน-8 ผู้ประกอบการแม่ฮ่องสอน แจ้งจับสาวพนักงานราชการป่าไม้ ปลอมแปลงเอกสารหลอกซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฉ้อโกงมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มิ.ย 66 กลุ่มผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าไอทีในตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 8 ร้าน ได้เข้าร้องทุกข์ ต่อ นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน กรณีมีหญิงสาวในตำแหน่งพนักงานราชการ อักษรย่อ ด. ของสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ได้เข้าไปติดต่อซื้อเครื่องอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าไอทีต่าง ๆ จำนวน 8 ร้านค้า รวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท โดยอ้างว่าทางสำนักงานจักหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน จะดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าไอที จำนวนหลายรายการเป็นการด่วนในโครงการเกี่ยวกับป่าไม้และไฟป่า โดยให้แต่ละร้านค้าจัดทำใบเสนอราคาส่งให้กับทางสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ซึ่งหลังแต่ละร้านค้าได้ทำใบเสนอส่งไปแล้ว ต่อมานางสาว ด. ก็ได้นำใบสั่งซื้อที่หัวกระดาษมีตราครุฑ และระบุชื่อสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน โดยมีนางสาว ด. ลงชื่อและประทับตราแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ พร้อมมีลงลายมือชื่อและประทับตราประจำตำแหน่งของผู้อำนวยการส่วนอำนวยการของสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน จากนั้นผู้ประกอบการจึงหลงชื่อนำสินค้ามาส่งให้ที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอนครั้งแรกในช่วงต้นเดือนกุมภาพพันธ์ 2566 โดยมีนางสาว ด. เป็นผู้เซ็นต์รับมอบสินค้า แต่ผ่านมาหลายเดือน ทางผู้ประกอบการทั้ง 8 ราย ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้าแต่อย่างใด ก่อนหน้านั้นพยายามสอบถามนางสาว ด. เจ้าพนักงานราชการที่เป็นผู้ติดต่อสั่งซื้อ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงอ้างยังไม่สามารถเบิกเงินได้เนื่องจากจะต้องตั้งงบประมาณในการเบิกจ่าย จากนั้นในวันถัดไปนางสาว ด. ก็ได้มีการติดต่อซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการไปอีกหลายรายการ โดยอ้างจะเบิกเงินให้พร้อมในคราวเดียวกันทั้งหมด จนผ่านมาร่วม 5 เดือนก็ยังไม่วี่แววที่จะได้เงินค่าสินค้าคืน ทางผู้ประกอบการคาดว่าคงจะถูกหลอก จึงได้เข้าร้องทุกข์และสอบถามข้อเท็จจริงต่อทาง นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอนที่เพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ได้เพียง 1 สัปดาห์
เบื้องต้นนายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน แจ้งว่าจากการสอบถามไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับโครงการที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ขณะที่ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการที่ลงลายมือชื่อและประทับตราประจำตำแหน่งในใบจัดซื้อ ก็ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อและประทับตราประจำตำแหน่งในใบจัดซื้อแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นคาดว่า นางสาว ด. จะเป็นผู้จัดทำใบสั่งซื้อปลอมแปลงเอกสารเพื่อนำไปแอบอ้างฉ้อโกงเอง
ด้านนายปรัชญา อำพัน ทนายความสถานประกอบการแห่งหนึ่งที่ถูกฉ้อโกง ได้กล่าวว่า เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งของสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ได้ใช้เอกสารที่เป็นของทางราชการมาทำการเบิกตั้งงบเพื่อซื้อของจากผู้ประกอบการไป โดยมีหัวหน้าส่วนเซ็นต์ในใบเสนอราคาสั่งซื้อด้วย แต่พอมาทราบทีหลังว่าหน่วยงานนั้นไม่ได้ซื้อสิ่งของนั้นจริง เป็นเจ้าหน้าที่แอบอ้างเอกสารของทางการเพื่อมาฉ้อโกง ซึ่งตรงนี้จะดำเนินการในคดีฉ้อโกงก่อน โดยจะแจ้งดำเนินคดีกับทุกคนที่มีรายชื่อและรายเซ็นต์ปรากฏในใบเสนอสั่งซื้อ ซึ่งหลัก ๆ มีอยู่จำนวน 3 ราย ส่วนจะเกี่ยวข้องทั้งหมดหรือไม่ ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
จากนั้นผู้ประกอบการที่ถูกฉ้อโกงทั้งหมด ได้พากันเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ขณะที่แจ้งความอยู่ห้องพนักงานสอบสวน ได้มีการเรียกตัวนางสาว ด. ไปทำการเจรจากับผู้ประกอบการด้วย ซึ่งนางสาว ด. ยอมรับว่าตนเองได้ปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นหัวหน้าส่วน ฯ เพื่อทำการสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าไอทีกับทางร้านจำหน่ายทั้งหมดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เรื่อยมา โดยหลังรับสินค้าแล้วได้นำไปขายออกยังประเทศเมียนมาเพื่อนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบที่กู้ยืมมา โดยตนเองทำคนเดียวหรือมีคนอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ตรงนี้ยังไม่ขอตอบ ส่วนการเป็นหนี้ต้องไปกู้นอกระบบนั้นไม่ได้ติดการพนันออนไลน์ตามที่หลายคนสงสัย แต่ส่วนหนึ่งที่กู้มาเพื่อให้คนอื่นที่คอยให้ความช่วยเหลือในเรื่องการงาน ซึ่งตรงนี้ตนเองจะหาแนวทางว่าจะชดใช้เงินทั้งหมดให้กับผู้ประกอบการทั้ง 8 รายได้อย่างไร เพราะเงินที่ได้มาก็ไม่มีเหลือ หากไม่มีปัญญาชดใช้ก็จะยอมรับผิดและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนกฎหมาย
ด้านผู้ประกอบการที่ถูกฉ้อโกงรายหนึ่งกล่าวว่า “ ตนเองไม่เชื่อว่า นางสาว ด. จะดำเนินการทั้งหมดเพียงคนเดียว และไม่เชื่อว่านำสินค้าที่ไปออกไปจำหน่ายยังประเทศเมียนมา เพราะรู้มาว่าสินค้าถูกส่งไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าจะต้องทำกันเป็นขบวนการ และหากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่สืบสาวเอาจริง ก็ยังมีความหวังว่าจะได้สิ่งของหรือค่าชดใช้ที่สูญเสียไปคืน.
สุกัลยา บัวงาม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 0819503127