สระบุรี/ม้าเหล็กขบวนสินค้าจากหนองคายเข้ากรุงเสยปิคอัพครอบครัวผู้รับเหมาที่แก่งคอยเสียชีวิต 2 เจ็บ 3

เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ ที่ 22 มิ.ย.2566 ร.ต.อ.ศักดิ์ถาวร หนูแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ หินซ้อน.อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถยนต์ปิคอัพจุดตัด กม 135 ทางเข้า”โบราณสถานเขาคอก” ท้องที่ ม.3 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สระบุรี นายตรวจการชุมทางรถไฟแก่งคอย และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิคอัพยี่ห้ออีซูซุสีดำ ทะเบียน บห-956 สระบุรี สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ด้านท้ายพังยับอยู่ในทุ่งหญ้าริมทางห่างจุดตัดราว 30 เมตร ผู้บาดเจ็บถูกพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่ง รพ.แก่งคอยก่อนแล้วรวม 4 ราย คงเหลือผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ทราบเพียงชื่อคือ น.ส.โสภา อายุ 18 ปี (ไม่ทราบนามสกุล) และนายไกรสร อายุ 22 ปี (ไม่ทราบนามสกุล) เช่นเดียวกัน ส่วนรถไฟคู่กรณ๊เป็นขบวนรถขนส่งสินค้าที่ 556 จากหนองคายมุ่งหน้า กท. ได้ไปหยุดรถห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร ก่อนเคลื่อนขบวนรถไปที่ ชุมทางรถไฟแก่งคอยเพื่อรอให้พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบ

ติดตามไปสอบถามผู้บาดเจ็บที่ รพ.แก่งคอย พบนายเศกสิทธิ์ โพร่งสกุล อายุ 50 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 251 ม.10 ต.บ้านกลับ อ.หนองโดน จ.สระบุรี บาดเจ็บเล็กน้อย (คนขับ) เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์ปิคอัพคันเกิดเหตุ จากบ้านพักเพื่อมาทำการก่อสร้างบ้านพัก ในพื้นที่ ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย โดยมีนางน้ำอ้อย ฯ อายุ 46 ปี ภรรยานั่งคู่กันมาด้านหน้า และมีนายวสันต์ พิมพ์อักษร อายุ 21 ปี,นายบิ๊ก (ไม่ทราบนามสกุล) น.ส.โสภา, นายไกรสร ( คนงานก่อสร้าง) นั่งที่กระบะด้านหลังรถ

ขณะมาถึงที่เกิดเหตุเป็นจุดตัด ที่ต้องขับขึ้นเนินข้ามรางรถไฟด้านซ้ายมือของตน มีวงบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ ทาสี ขาว-แดง ตั้งเรียงรายเป็นสัญญาณเตือนอยู่ริมทางทำให้บดบังทัศนียภาพ ประกอบกับตนไม่ได้ยินเสียง”หวูด” รถไฟเตือนแต่อย่างใด จึงได้ขับรถข้ามรางรถไฟใกล้จะพ้นอยู่แล้ว แต่ได้ถูกหัวรถจักรวิ่งพุ่งเข้าชนกระบะหลังอย่างจังทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบข้ามจากฝั่งซ้าย มาทางฝั่งขวารถหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตนและภรรยา ติดอยู่ในที่นั่งด้านหน้าได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายวสันต์ กระโดดออกจากกระบะได้ทัน จึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ นายบิ๊ก ถูกตัวรถทับแขน-ขาหัก ถูกส่งต่อไปที่ (รพ.สระบุรี) และนายไกรสร กับ น.ส.โสภา กระโดดหนีไม่ทัน ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว

สำหรับบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ดังกล่าวนี้ ชาวบ้าน/ผู้นำชุมชน ที่มามุงดูเหตุการณ์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า เคยมีการประชุมเรียกร้องให้ทางการ ทำเครื่องไม้กั้น หรืออย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้ว เพราะเป็นเขตอันตรายปัจจุบันมีชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลัดเพื่อสัญจรไป-มา แต่ก็ไม่เห็นทำเสียทีหากปล่อยไว้เช่นนี้เดี๋ยวก็เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นอีก.