นครนายก – พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบกองทุน TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก
นครนายก – พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบกองทุน TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมสงฆ์วัดอุดมธานี พระอารามหลวง ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระราชพรหมคุณ เจ้าคณะจังหวัดนครนายก เป็นประธานสงฆ์ ในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบกองทุน TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก โดยมีพระครูปริยัติโพธิสุนทร เจ้าคณะอำเภอเมืองนครนายก พร้อมคณะสงฆ์ และหน่วยงานราชการให้การต้อนรับ โดยมีนางอรรัตน์ จันทร์เพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครนายก ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบกองทุน TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก โดยได้รับเงินบริจาคในการทอดผ้าป่าทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 253,500.75 สตางค์
ด้วยจังหวัดนครนายกได้รับการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน มีเยาวชนอายุ 10-24 ปี เป็นสมาชิกจำนวน 34,227 คน คิดเป็น 93.696% มีการดำเนินงานทั้งในสถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สำนักงานคุมประพฤติ เรือนจำในจังหวัดนครนายก ในปีพ.ศ.2565 มีผู้ป่วยยาเสพติดเข้ารับการรับบำบัดร้อยละ89.51 สมาชิกเข้าร่วมโครงการ (ใครติดยา ยกมือขึ้น) จำนวน 258 คนสามารถหยุดยาได้ใน 3 เดือนร้อยละ 71.43 สถิติการจับกุมคดียาเสพติดลดลงร้อยละ 1.33
โดยการดำเนินงานโครงการมุ้งเน้นให้เยาวชนของจังหวัดนครนายกให้ความสำคัญในกาป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดเนื่องในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของกลุ่มเยาวชนจังหวัดนครนายก ดังปณิธานขององค์ประธานโครงการฯ เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด ซึ่งการขับเคลื่อนการดำเนินงาน จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือทั้งในระดับจังหวัด อำเภอและตำบล ร่วมทั้งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนมีการบูรณาการงบประมาณร่วมกัน แต่เนื่องจากงบประมาณมีจำกัดคณะกรรมการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครนายก จึงมีมติจัดตั้งกองทุนและมีคณะกรรมการบริหารกองทุน เพื่อจัดหาทุนสนับสนุนในการขับเคลื่อนโครงการฯให้มีประสิทธิภาพต่อไป
สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก