24/12/2024

ตร.ไซเบอร์จับเครือข่ายแก๊งรับสมัครขายตั๋วเครื่องบิน ตุ๋นเหยื่อโอนเงินก่อนทำงาน เสียหายรวมเกือบ 2 ล้าน

E58E7724-185C-4033-9242-9298016DC099

ตร.ไซเบอร์จับเครือข่ายแก๊งรับสมัครขายตั๋วเครื่องบิน ตุ๋นเหยื่อโอนเงินก่อนทำงาน เสียหายรวมเกือบ 2 ล้าน
.
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้สืบสวนหาข่าวกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำความผิดบนสื่อสังคมออนไลน์
.
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้พบเฟซบุ๊ก ชื่อว่า Annemarieb Amsden ลงประกาศว่า ต้องการรับสมัครตัวแทนขายตั๋วเครื่องบิน จึงเข้าไปคอมเม้นท์หน้าเพจว่าสนใจ หลังจากนั้นเพจได้ทักแชทในช่องส่วนตัวของผู้เสียหายและแนะนำให้คลิกลิงก์ และได้พูดคุยทางไลน์กับแอดมินผู้ใช้ชื่อไลน์ว่า “วุฒิ” หลังจากนั้นแนะนำการจองตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้า หลังจากผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชี น.ส.สุภาวดี (สงวนนามสกุล) จากนั้นแจ้งว่ารอรับไฟล์จากศูนย์ระบบ และได้ส่งข้อมูลอ้างว่า เป็นผู้จองตั๋วเครื่องบิน หลังจากที่ผู้เสียหายสนใจจองตั๋วเตรื่องบินแล้ว หลังจากนั้นได้คลิกคำว่า สั่งซื้อตั๋ว ระบบได้แจ้งว่าสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว จึงได้ถ่ายภาพหน้าจอส่งให้แอดมิน
.
ต่อมาได้ส่งงานคนที่ 2 ก็ใช้วิธีการเดียวกัน แต่ยอดเงินไม่เพียงพอ ไม่สามารถซื้อได้ แอดมินจึงแนะนำให้โอนเงินเพิ่มอีก เพื่อเป็นการสำรองทุนเข้าไปในระบบ เมื่อโอนเงินแล้ว ทำการจองเคสที่ 2 สำเร็จ ต่อมาคนที่ 3 ได้ใช้วิธีเหมือนครั้งที่ผ่านมา ข้อมูลเหมือนเดิมอีก จองตั๋วสำเร็จครบ 3 เคส แล้ว จึงแจ้งถอนเงินออกจากระบบครั้งแรก พบว่าถอนเงินได้จริง หลังจากนั้นแอดมิน ได้ส่งงานให้รับจองตั๋ว 10 เที่ยวบิน เมื่อจองครบ แอดมินแจ้งว่าสามารถถอนเงินคืนได้เลย ผู้เสียหายจึงตัดสินใจทำงานต่ออีก 10 เที่ยวบิน และเมื่อจองครบ ก็จะมีลักษณะงานรูปแบบเดิม และให้โอนเงินเพิ่มอีกเรื่อย ๆ เมื่อผู้เสียหายถ่ายภาพหน้าจอและแจ้งถอนเงินออกจากระบบ แต่แอดมินกลับอ้างว่า ทำผิดเงื่อนไข ไม่สามารถถอนเงินจากระบบได้ ให้โอนเงินเพิ่มไปอีก ผู้เสียหายเห็นว่าผิดปกติ และเชื่อว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง จึงแจ้งความดำเนินคดี
.
จากกรณี “ขบวนการหลอกจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวทิพย์” ตำรวจไซเบอร์ พบความเชื่อมโยงคดีออนไลน์ 12 Case ID มูลค่าความเสียหายกว่า 1,888,556 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 บช.สอท. สืบสวนติดตาม น.ส.สุภาวดีฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพบ น.ส.สุภาวดีฯ บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้าน ช.รุ่งเรือง 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ
ในความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน
.
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 , พ.ต.อ.ศุภกร
ธัญญกรรม ผกก.1 บก.สอท.5 ได้สั่งการว่าที่ พ.ต.ต.สุธี บุดดีคำ ปรก.กก.1 บก.สอท.5, ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง รอง สว.กก.1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป