กาฬสินธุ์ ชาวนาอ่วมต้นข้าวจมน้ำตายกว่า 500ไร่ จี้เรียกผู้รับเหมาเปิดทางน้ำด่วน
อ่วม!ชาวนาในตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังนาข้าวกลายเป็นทะเลสาบ ต้นข้าวที่กำลังเจริญงอกงามจมอยู่ใต้ท้องน้ำกว่า 500 ไร่ ความเสียหายเกิดขึ้นแล้วหลายแสนบาท พร้อมรวมตัวเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา หลังผู้รับเหมาที่ขุดลอกหนองอีจ่อย แหล่งน้ำสาธารณะประจำตำบล กั้นดินขวางทางน้ำ พร้อมเรียกร้องเปิดทางน้ำด่วน เพื่อให้ไหลสะดวก
วันที่ 14 มิถุนายน 2566 ที่บริเวณหนองอีจ่อย แหล่งน้ำสาธารณะบ้านดอนหวาย-บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านกว่า 10 คน นำโดยนายสุวรรณ อรัญสาร นายทวี นักธรรม นายกัน อรัญทอง ได้รวมตัวเรียกร้องให้ผู้รับเหมาที่กำลังดำเนินการขุดลอกหนองอีจ่อยเปิดทางน้ำไหล และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา หลังประสบปัญหาความเดือดร้อนมวลน้ำที่ไหลจากหมู่บ้าน และน้ำป่าที่ไหลลงมาจากด้านบน ซึ่งเป็นลำรางสาธารณะหรือร่องน้ำตามธรรมชาติ ไม่สามารถไหลผ่านไปได้ เพราะทางผู้รับเหมาไม่ยอมเปิดทางน้ำที่เคยไหลออกให้ ส่งผลให้ประตูน้ำถูกปิด น้ำไม่มีทางออก และเอ่อท่วมพื้นที่นาข้าว และทำให้ต้นข้าวที่กำลังเจริญงอกงาม ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 500 ไร่
นางประยงค์ อรัญทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 9 บ้านดอนหวาย กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมนาข้าวดังกล่าว เกิดจากโครงการขุดลอกหนองอีจ่อย เขตติดต่อบ้านดอนหวายกับบ้านสีถาน โดยผู้รับเหมาที่ได้เข้ามาทำการขุดลอก ตั้งแต่เดือน ม.ค.66 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านดอนหวายที่อยู่ด้านบนของหนองอีจ่อย เนื่องจากพอฝนตกลงมา น้ำฝนจากหมู่บ้านและน้ำป่าที่ไหลลงมาตามร่องน้ำธรรมชาติแต่เดิม ไม่สามารถไหลผ่านไปได้ เพราะทางผู้รับเหมาปิดทางเดินของน้ำ
ทำให้น้ำเอ่อท่วมนาข้าวของชาวบ้านดอนหวาย ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 500 ไร่ ปัญหานี้เริ่มมาประมาณ 1 สัปดาห์ตั้งแต่เข้าหน้าฝน เคยรวมแจ้งความเดือดร้อนผ่านผู้นำชุมชน และนายก อบต.ดงลิง รวมทั้งเรียกร้องกับทางผู้รับเหมาเพื่อให้เปิดทางน้ำแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่มีการแก้ไขเกิดขึ้น ชาวบ้านจึงเดือดร้อน ได้แต่ปรับทุกข์กัน เป็นความทุกข์ใจที่ไม่น่าจะเกิด แค่เปิดทางน้ำพอให้น้ำไหลออกไปปัญหาก็จบ แต่ผู้รับเหมากลับไม่ยอมทำตามที่ชาวบ้านร้องขอเลย
ด้านนายวิจิตร อรัญสาร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 9 บ้านดอนหวาย กล่าวว่า ตนมีที่นา 18 ไร่ โดยทำนาหว่านเมื่อต้นเดือน พ.ค.66 หวังให้ต้นข้าวสูงหนีจากการถูกน้ำฝนท่วม ต้นข้าวกำลังจะเจริญงอกงาม ลงทุนไปแล้ว 30,000 บาท แต่อยู่ๆก็ถูกน้ำเอ่อท่วม เนื่องจากทางน้ำถูกปิดกั้น ไม่มีทางออก ทำให้ต้นเน่าเสียหายหมด หากรวมความเสียหายกับชาวนารายอื่นๆ คงเป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท เพราะต่างก็ลงทุนจ้างรถไถ ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว และซื้อปุ๋ยเคมีมาหว่านบำรุงต้นข้าวเป็นจำนวนมาก
รายได้จากขายข้าวนาปรังหวังจะมาลงทุนทำนาปี ก็สูญหายไปกับมวลน้ำที่เอ่อท่วม เมื่อท้องนากลายเป็นท้องน้ำไม่ต่างกับทะเลสาบอย่างนี้ ได้แจ้งปัญหากับผู้นำชุมชนและผู้รับเหมาแล้วไม่ได้รับการแก้ไข ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงได้รวมตัวเรียกร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ เพื่อให้ประชาคมเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ว่าทุกวันนี้ชาวบ้านยังมีความทุกข์เดือดร้อนอยู่ ขอความเห็นใจและเร่งรีบแก้ไขด้วย เพราะปัญหานี้แก้ไขไม่ยากเลย แค่ผู้รับเหมาใช้รถแบ็คโฮเปิดทางน้ำ น้ำก็ไหลออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากคำบอกเล่าของชาวบ้านผู้เดือดร้อน ทราบว่าปัญหาน้ำท่วมนาข้าวครั้งนี้ ซึ่งเป็นการท่วมตั้งแต่ต้นฤดูฝน ทุกคนเห็นว่าเป็นการท่วมเนื่องจากผู้รับเหมาที่เข้ามาขุดลอกหนองอีจ่อย ไม่ยอมเปิดทางน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ เคยมีตัวแทนผู้รับเหมามาแจ้งกับชาวบ้านว่า หากนาข้าวเสียหาย ก็ให้ไปแจ้งกับฝ่ายเกษตร เพื่อขอรับการชดเชยเยียวยา ซึ่งชาวบ้านมองว่าพูดไม่ถูก เพราะไม่ใช่ภัยธรรมชาติ จึงอยากให้ทางผู้รับเหมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โยนความรับผิดชอบไปให้หน่วยงานอื่น
ขณะที่นายชุมพล ศิริภักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลดงลิง กล่าวว่า สำหรับโครงการขุดลอกหนองอีจ่อยดังกล่าว เป็นโครงการขุดลอง พร้อมระบบสูบน้ำโซล่าเซล เนื้อที่ 1,000 ไร่ ได้รับงบประมาณจำนวน 29 ล้านบาท จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เริ่มดำเนินมาตั้งช่วงปี 2565 สิ้นสุดมิถุนายน 2566 อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งเหลืออีกประมาณ 20-30 % น่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนเสร็จสิ้นโครงการ แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดฝนตก จึงเกิดน้ำปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านดอนหวาย ซึ่งทราบปัญหาตั้งแต่ต้น โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเกษตรมาตรวจสภาพปัญหา เพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไป